วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ความหมายของถนนรัชดาภิเษก


อ่านเรื่องราวที่อยากนำเสนอ น้านนานแล้ว..แต่ไม่มีเวลาเขียนมันจริงจังเสียที..
วันนี้เย็นโทรหาอาปิงถามเค้าว่า เฮ้ย อาปิง แกรู้ความหมายของถนนรัชดาภิเษกเปล่าวะ...อาปิงตอบว่า น่าจะเป็นเจ้าของห้างรัชดาทำขึ้นมาเปล่า...ชั้นแอบหัวเราะในใจ
ถามต่อไปอีกว่าแล้ว ถนนกาญจนาภิเษกหล่ะ...อืม ไม่รู้จริง ๆ นะ

งั้นคืนนี้อ่านละกันจะได้รู้...จ้าาาาาา คำตอบแบบเหมือนลูกตอบแม่
ทำไมจึงอยากที่จะเขียน...เพราะเชื่อแล้วว่าหลายคนไม่รู้จริง ๆ ..ไม่รู้เพราะไม่ได้ใส่ใจ ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ..คนก็แบบนี้ เข้าใจได้

วันนั้นไปแถวอมตะ..ลูกน้องนั่งอยู่ในรถ ผ่านร้านทองชื่อ กาญจนาภิเษก..ใจคิดนะ บ้านนี้แม่งช่างกล้าใช้ชื่อนี่จริง ๆ...เลยถามลูกน้องว่า หมู แกรู้เปล่า ความหมายของคำว่ากาญนาภิเษกเนี่ย...เออน่าจะแปลว่า ผู้หญิงสวยงามมั้งคะ คุณลีลี่..อืม ๆ เอางี้นะ จะเล่าให้ฟัง ....

วันนี้จะเล่าเรื่องถนนสายสำคัญของชาวกรุงเทพฯ และชาวไทยทุกคน..ถนนรัชดาภิเษก ถึง กาญจนาภิเษก...ซึ่งถนนสายนี้ ผัวหมีเค้าสามารถตอบคุณได้เป็นอย่างดี...เพราะชั้นมักจะเล่าให้เค้าฟังเสมอ
ถนนรัชดา..ที่ใคร ๆ ก็เรียกสั้น ๆ แบบนั้น..เมื่อในอดีต ชั้นก็รู้จักถนนสายนี้ เพราะมีร้านอาหารตำหนักไทย ที่เด็กเสริฟใส่รองเท้าสเก็ต..ดังมาก..มีห้างเยาฮัน..มีสถานฑูตจีน...ห้างโรบินสันรัชดา..ศาลอาญา..เยอะอะ จำได้แค่นี้แหล่ะ

ถ้ากลางคืน..สำหรับคนจีนยูนนาน คนจีนไต้หวัน ต่างชาติจะรู้จัก ฮอลลี่วู๊ดรัชดา..อาบอบนวด..คาราโอเกะเหมยฮัวรัชดา..โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค..เท่าที่สมองจะจำได้เนาะ...ร้านขายรถก็เต็มถนนรัชดาสองฝั่ง
กลางวันจะเป็นถนนสายธรรมะ...กลางคืนกลายเป็นแหล่งโลกีย์...

บทความนี้เกิดขึ้นเพราะ ตั้งแต่เห็นถนนกาญจนาภิเษก ก็คิดนะว่า ทำไมต้องมีคำว่า ภิเษก..มันต้องมีไรที่เชื่อมกัน จึงหาข้อมูลอย่างหนัก..เพราะเป็นคนชอบค้นคว้าแบบลับ ๆ

ถนนรัชดาภิเษก เป็นถนนวงแหวนชั้นในของกรุงเทพฯ...ถ้าเราส่องจากดาวเทียมลงมา จะเห็นวงแหวนสองวง ชั้นนอก คือถนนกาญจนาภิเษก..

ทำไมถึงสร้าง...น่านสิ

ย้อนไปเมื่อ ปีพ.ศ2514 ตอนนั้นชั้นยังไม่เกิดหรอก..

ในปีนั้น ในหลวงของเราทรงครองราชย์ครบ 25 ปี..ซึ่งตามธรรมเนียมฝรั่งจะเรียกการฉลองครบรอบ 25 ปีนี้ว่า Silver Jubilee หรือการฉลอง เงิน นั่นเอง...25 ปีคือ เงิน...ในภาษาไทยเราเรียกว่า รัชด หรือ รัชต ที่แปลว่า เงิน..คำนี้มา สนธิ กับคำว่า อภิเษก ที่แปลว่าเฉลิมฉลอง..เลยกลายเป็น คำว่า รัชดาภิเษก... 
ตอนแรก.. อดีตท่านนายกสมัยนั้น จอมพลถนอม กิตติขจร นายกคนที่ 10 ของประเทศไทย..ได้มีความคิดที่อยากสร้าง หอคอย แบบที่ญึ่ปุ่น มีคือหอโตเกียว..หรือไม่ก็ หอไอเฟล แบบฝรั่งเศส..เพื่อเป็นอนุสาวรีย์ถวายแก่ในหลวง

แต่ในหลวงท่านทรงมีความคิดว่า การสร้างอนุสาวรีย์นั้นไม่ได้เกิดประโยชน์ไรแก่มหาชน..จริงอยู่อาจจะสวยงาม ให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูป ชมทิวทัศน์..และการสร้างก็ต้องใช้เงินมหาศาล..ในหลวงท่านจึงปฏิเสธไป แต่กลับให้แนวคิดว่า...มาแก้ไขปัญหาจราจรให้กับประชาชนดีกว่า..

ด้วยการสร้างถนนวงแหวนเส้นแรกของประเทศไทย..โดยไม่ต้องสร้างใหม่ทั้งหมด..เพราะมีถนนบางช่วง บางตอนอยู่แล้ว เพียงแค่สร้างในจุดที่ขาดหายไปก็พอ...

ถนนรัชดาภิเษกจึงเกิดขึ้น..

จุดเริ่มต้นตั้งแต่ สามแยกท่าพระ..ข้ามสะพานกรุงเทพฯ...ผ่านเจริญกรุง..มายังพระรามที่สี่..เดินมาเรื่อยๆถึงเพชรบุรีตัดใหม่...ผ่านทุ่งนาป่าดอน...เชื่อมไปยังวิภาวดีรังสิต...ผ่านพหลโยธิน...อ้อมไปเรื่อย ๆ ถึงจรัญสนิทวงศ์..และบรรจบกัน อีกครั้งที่ แยกท่าพระ

ระยะทางยาวประมาณ ห้าสิบกิโลเมตรได้...

หลังจากที่ถนนเส้นนี้สร้างเสร็จ..ไม่นานผ่านมาอีกยี่สิบห้าปี..

เมื่อพ.ศ.2539 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ครบ 50 ปี..ฝรั่งเรียกว่า Golden Jubilee..ซึ่งแปลว่าการฉลอง ทอง..50 ปีคือ ทอง..ภาษาไทยเราเรียกว่ากาญจน แปลว่า ทอง...สนธิ กับคำว่า อภิเษก..กลายเป็น กาญนาภิเษก ที่เราเรียกกันนี่แหล่ะ

และแน่นอนว่ารัฐบาลก็อยากสร้างอนุสาวรีย์ถวายแด่พระองค์ท่าน..แต่ก็โดนปฏิเสธไปด้วยเหตุผลอันเดิม..และทรงมีพระราชดำริให้สร้างถนนวงแหวนรอบนอกอีกครั้ง..หลักการเดิมก็คือไม่ต้องสร้างใหม่.. แต่ให้เชื่อมต่อเหมือนถนนรัชดาภิเษกนั่นเอง

พวกเราชาวไทยทุกคนจึงได้ใช้ถนนกาญจนาภิเษกเฉกเช่นทุกวันนี้..

ซึ่งถนนสองเส้นนี้มีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อชาวกรุงเทพฯ และ ชาวต่างจังหวัด..เมื่ออดีตการที่จะคนต่างจังหวัดจะไปยังอีกจังหวัดหนึ่ง ต้องขับรถฝ่าดงรถติดเข้ามาในเมือง เพื่อข้ามไปยังอีกจังหวัด...ซึ่งชาว กทม เองก็รถติดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว...

หลังจากที่มีถนนเส้นนี้ใช้ ก็ไม่เกิดปัญหานี้อีกเลย...ซึ่งเชื่อว่าหลายๆคนคงรู้สึกอย่างงั้นเช่นกัน
ทุกๆครั้งที่ชั้นกะผัวหมี ขับรถผ่านถนนรัชดาฯก็ดี ผ่านกาญนาฯก็ดี...ชั้นจะถามเค้าเสมอว่า..ไหนลองเล่าซิ ว่าถนนนี้มีนิทานความเป็นมายังไง...หมีเค้าตอบได้หมดเลยนะ ขอบอก..มันเป็นความภูมิใจของชั้นจริงนะ..ที่บอกเล่าเรื่องราวแบบนี้ให้คนรอบข้างฟัง

เล่าอีกนิดก่อนจากกัน..

บทความนี้อาจจะใช้คำราชาศัพท์ที่ไม่ถูกต้องนัก..คือเขียนแบบบ้าน ๆ แบบว่าเล่าสู่กันฟัง..เพื่อให้เข้าใจง่ายที่สุดในการถ่ายทอด..

ขอให้มองถึงความตั้งใจที่อยากจะเล่ามากกว่ามาจับผิดกันในการเขียน..

สำหรับมิสทุยแล้ว...มีความรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นของพระเจ้าอยู่หัว
อยากจะบอกว่ารู้สึกตัวเองและครอบครัวโชคดีที่ได้เกิดในผืนแผ่นดินไทย..และภูมิใจเสมอที่จะเล่าเรื่องถนนนี้เป็นร้อย ๆ ครั้ง

วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เจ๊าะแจ๊ะจีน ตอน "จีนกับแบรนด์ของบุหรี่ที่แพงที่สุดในโลก"



เจ๊าะแจ๊ะจีน..วันนี้ 2-6-2559
นานแล้วนะที่ มิสทุยไม่ได้เขียนไรในช่วงนี้...ยุ่งมาก
กลับมาอีกครั้งกลับเรื่องราวดี ๆ เช่นเคย..ตามมา

...ถ้าหากบนโลกนี้ ผู้ชายส่วนใหญ่ใช้แบรนด์เนม บ่งบอกถึงสถานะ ฉันใด...ที่จีน กลับใช้ บุหรี่ บ่งบอกถึงสถานะฉันนั้น..

ใช่..อ่านไม่ผิด

วันนี้จะพาทุกคนมาเปิดหูเปิดตา กับ

บุหรี่ที่แพงที่สุดในโลกก็ว่าได้..เพราะชั้นยังไม่เคยเห็น บุหรี่ ไหนแพงขนาดนี้มาก่อนเลย ...ให้ตายเถอะ

ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นเรื่องบุหรี่นิดนึง..

ตอนแรกยังงงว่า ไอ่คำว่า ยาสูบ กะ บุหรี่ต่างกันยังไง..ตอนนี้ได้คำตอบแบบง่ายคือ ใบยาสูบคือไอ่ใส้บุหรี่ ..สมัยก่อนมีไม่มีบุหรี่ทันสมัยแบบปัจจุบัน...หลังจากเก็บเกี่ยวใบยาสูบ ก็เอามาตากแห้ง มารมควัน..เอามาบด หั่นเป็นฝอย ๆ..แล้วใช้ใบตอง หรือไม่ก็กระดาษม้วนเอา...แล้วก็ดูดจู๊ด ๆ..พ่นควันออกมา อ้าาาาา...มะเร็งอร่อยแท้

ยาสูบเข้าไปที่จีนเมื่อศตวรรษที่ 17 สมัยราชวงศ์หมิง..ตั้งแต่นั้นมาถึงวันนี้ จีนได้ครองแชมป์สิงห์อมควันมากที่สุดในโลก..ซึ่งมีประชากรที่สูบบุหรี่มากถึง 1/3ในของประชากรในประเทศ...ความต้องการที่มีมากขึ้นทวีคูณทุกปี...ทำให้แทบจะทุกมณฑลในจีน มีโรงงานยาสูบของตัวเอง..
แบรนด์ต่างๆมีเป็นพันเวอร์ชั่นที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด...

ทำไมบุหรี่จึงได้รับความนิยมขนาดนั้น..ก็เพราะว่า บุหรี่ เป็นตัวแทนของวัฒนธรรมจีนอีกอย่างที่บนโลกนี้ไม่มี..นั่นคือ การแบ่งปันบุหรี่นั่นเอง..ฝรั่งมีวัฒนธรรมในการใช้เหล้าในการดื่มอวยพร แสดงความเคารพคนอื่น..ส่วนจีนก็ใช้ บุหรี่นี่แหล่ะ เป็นการแสดงความเคารพคนอื่นเช่นกัน

คนจีนเวลาเจอกัน มักจะใช้บุหรี่ของตัวเอง มาแบ่งให้อีกฝ่าย..และแน่นอน บุหรี่ บ่งบอกถึงสถานะ.. อาชีพ..และรสนิยมของเจ้าของได้เป็นอย่างดี..และคนจีนก็เชื่อว่า การที่ทำให้อีกฝ่ายเริ่มรู้สึกเป็นมิตร รู้สึกอบอุ่น บุหรี่ นี่แหล่ะ คือจารบีหล่อลื่นความสัมพันธ์ชั้นดีเชียวหล่ะ...

ถ้าใครที่ลืมแบ่งปันบุหรี่ให้กับอีกฝ่าย..ถือว่าเป็นการเสียมารยาทมากเลยทีเดียว..
หากเราดูหนังจีนจะเห็นภาพผู้ชายสูบบุหรี่อย่างเท่ห์เลย...ค่อยๆพ่นควันออกมาอย่างสบายอารมณ์...สักพัก จะมีผู้หญิงใส่กี่เพ้า ปากแดงๆ ตูดโด่ง ๆ...เดินมาแต่ไกล ..ใช่มะ...พอโบกมือปุ๊ป ขนจั๊กแร้ ยาวเฟื้อยเลย..เอ้ย เริ่มไปไกลละ

แม้แต่ผู้นำประเทศ ไม่ว่าจะเป็นทั่นเหมาเอย..เติ้งเสี่ยวผิงเอย..หรือแม้แต่ผู้นำเกาหลีเหนือคิมจองอิล ที่ได้ขนานนามว่า เป็นชายที่สูบบุหรี่น่ารักที่สุดในโลก...คีบบุหรี่ทุกครั้งที่มีการเจรจาการเมือง

คนทั่วไปเมื่อเห็นผู้นำประเทศมีรสนิยม อย่างไร ก็มักจะเกิดพฤติกรรมการเลียนแบบเกิดขึ้น...นี่แหล่ะที่ทำให้ชายจีน ต้องสูบบุหรี่ แสดงถึงความเป็นผู้นำ เท่ห์ มีวิสัยทัศน์...ยิ่งถ้ามีตังค์ต้องพกบุหรี่แพง ๆ โชว์สาวถึงจะขลัง

ราคาบุหรี่ในจีน มีการแบ่งเรทราคา ห้าระดับ ตั้งแต่50 -200 หยวน..300-500หยวน..500-800หยวนและ 900 อั๊พ





ส่วนเรทราคาที่ขายดีที่สุดคือ 180-300 หยวนต่อแถว..ลองเอาเงินไทย ราวๆ5บาทคูณเข้าไป..แพงใช่ย่อยนะ และวันนี้ ถ้ามาแนะนำไรกระจอกๆแบบนี้คงไม่ใช่ เจ๊าะแจ๊ะจีนของมิสทุยแล้วหล่ะ..






เออ เกือบลืมบอกไปว่า..ที่จีน การปั่นราคา การสร้างกระแส ของเค้านี่สุดยอดละ..และแน่นอนว่า ยาสูบที่เค้าเก็บเกี่ยวในแต่ละปี ก็มีคุณภาพที่ต่างกัน..อีกทั้งกรรมวิธีของการผลิตที่มีโนว์ฮาว การแต่งกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ต่างกัน..นี่ก็เป็นอีกปัจจัยที่ราคามันแพง..

ส่วนการออกแบบชื่อ..โลโก้..แพ็คเกจจิ้ง..เหล่านี้ จีนจะให้ความสำคัญมาก..และเน้นการออกแบบในสไตล์แบบชาตินิยม..มักจะใช้ชื่อสถานที่ดังๆในประวัติศาสตร์..อะไรก็ได้ที่แสดงความเป็นจีน ที่เห็นปุ๊ปไม่ต้องเดา ไอ่นี่ของจีนแน่นอน เช่น แพนด้า..อะไรเงี๊ยะ

ส่วนสีก็แน่นอนเลย สีแดง..สีทอง ยอดนิยม

ต้องมีคนอยากรู้ว่า แล้วคนจีนไม่นิยมบุหรี่นอกหรือ...ตอบ ไม่..เพราะคนเหล่านี้เค้าผูกพันกับคำว่า สมุนไพรจีนมาแต่เกิด..ดังนั้นอะไรที่เป็นของนอก เช่นยารักษาโรคของตะวันตก เค้ากลับไม่นิยมเลยนะ..และคนจีนก็เชื่อและฝังใจว่าบุหรี่เค้า ออร์แกนิค นิโคตินน้อยมาก..นี่เป็นอีกเหตุผลที่บุหรี่นอก ขายไม่ดีในจีนเลย

เอาหล่ะมาดูภาพบุหรี่ในฝันของเรากันเถอะ...อย่าตกใจนะยะ

เออลืมเล่าอีกเรื่อง..คนจีนบอกว่า บุหรี่ต้องของเมืองยูนนาน เหล้าต้องของเมืองกุ้ยโจว..ส่วนชาต้องผู่เอ่อร์...เวลาคุยกะคนจีนแบบนี้ พวกเค้ากริ๊ดแน่ ๆ...ประมาณว่า แสนรู้จริงนะ คิคิ

จะบอกว่า..ตอนนี้บุหรี่กลายเป็นการโชว์ออฟเพื่อเกทับกันด้วย..เวลาที่เราไปดิลงานที่เมืองจีน ในโรงงานจะมีมีบุหรี่สองแบบที่เตรียมพร้อมสำหรับแจก...ของดีหน่อย ก็ยี่ห้อ จงหัว ..และต้องเป็นซองอ่อนเท่านั้นนะ ..ยี่ห้อนี้ไว้แจกพวกผู้บริหารระดับสูง..ลูกค้า..และเจ้าหน้าที่รัฐ ยี่ห้อทั่วไปไว้แจกคนทั่วไปที่ไม่ค่อยมีความสำคัญมากนัก...

อย่างเวลาที่ไปงานเลี้ยงหรือ การเจรจาธุรกิจ...บุหรี่ ก็เป็นเสมือนหน้าตาของเจ้าของ..ถ้าคนที่เค้ายื่นให้เรา ใช้บุหรี่แพง ๆ เราจะไม่กล้าเอาบุหรี่ของเราออกมายื่นให้เค้าเลย...ก็กลายเป็นการเกทับกันในเรื่องของหน้าตานะ...มันเป็นวัฒนธรรมที่อาจจะดูแย่นิดนึง แต่มันเป็นมาแล้ว ก็ต้องรับสภาพกันไป..คงยากที่จะไปเปลี่ยนทัศนคติแบบนี้..เพียงแต่เรามองและรับรู้ด้วยความเข้าใจ วัฒนธรรมแต่ละประเทศมันต่างกัน..ไม่มีใครถูกใครผิด..ถ้าเข้าใจบริบทนี้ ทำการค้ากะคนจีนก็ง่ายขึ้นเยอะเลย

ราคาที่เขียนคือต่อแถว...บุหรี่ขายเป็นแถว หนึ่งแถวมีสิบซอง..ไปหารเอาเองเถอะ ว่าราคาต่อซองเท่าไหร่..เคร ๆ ๆ ๆ จบละ

Lily

เจ๊าะแจ๊ะจีน & รีวิวเว่อร์ by เจ้ลีลี่
https://www.facebook.com/lilydiary/


วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เวลาที่คุณเจอวิกฤติ อย่ามัวเสียเวลาไปโทษฟ้าดิน


สมองช่วงนี้ทำงานหนักมากทีเดียว..คนนอก ดูเหมือนชิล ๆ เนาะ..
อ่านบทความเยอะมาก..และต้องทำการย่อยความคิดของผู้เขียนบทความ มาเป็นของตัวเอง..ยาก เพราะเป็นภาษาจีน นี่แหล่ะ

บางทีแม่ชั้นยังบ่นเลย อ่านไรเยอะแยะทุกวัน..แม่!!!! การจะเขียนไรที่เป็นเรื่องยากให้คนเข้าใจ เหมือนเคี้ยวอาหารในปากให้เละ แล้วป้อนต่อเลย..

คนจีนมีบทความเป็นหมื่น ๆ เรื่อง..ต้องอ่านที่ตัวเองชอบจริง ๆ
นี่คือความโชคดีที่ได้เปรียบเรื่องภาษานะ..

ในไทยคนเก่งจีนเยอะอยู่ แต่ดั้นไม่ค่อยจะเก่งในการเขียนภาษาไทยนี่สิ..การจะเอาภาษาจีนมาเขียนให้คนไทยเข้าใจในแบบที่จีนต้องการจะสื่อสาร...บอกเลย น้อยคนทำได้

มีคนมากมายอยากให้เขียนเรื่องเศรษฐกิจไทย..บอกตามตรง ไม่อยากวิจารณ์ ...เพราะคนไทย เป็นคนที่รับความจริง ความตรง ความแรง ไม่ค่อยได้กัน..ถึงมีคำว่า ดัดจริตประเทศไทยไง

ถ้าในแง่ที่ตัวเองทำธุรกิจอยู่..สิ่งที่เจอคือ ความเงียบสงบของออเดอร์..ไม่กระฉูดเหมือนที่ผ่านมา..
ทุกวันนี้ใครถาม เป็นไง ดีไม๊...งั้น ๆ ขอแค่ประคองให้ธุรกิจรอดในปีนี้ เป็นใช้ได้...ปีที่แล้วว่าแย่ ปีนี้แย่กว่า...ลองไปเดินห้างสิ จะรู้เลย..ขนาดเอ็มเคยังสะเทือน..เข้าสู่หลักทรัพย์เรียบร้อย แต่ไม่หวือหวาเท่าที่คาดหวัง

แต่เป็นความโชคดีของชั้น ที่ชั้นมีสินค้าใหม่ ๆ มาป้อนตลาด..ไม่ใช่รองเท้า แต่ไม่เปิดเผย

คือคนเราเนี่ย เวลาที่คุณเจอวิกฤติไรก็ตาม อย่ามัวเสียเวลาไปโทษฟ้าดิน ...เอาเวลานั้นมามองหา สินค้าใหม่ ๆ ดีกว่า..และเป็นความโชคดีที่ สินค้าของชั้น ในไทยยังไม่มี..จึงมีความสามารถที่จะทำเงินได้พอสมควร

ชั้นจะเปิดเผยให้คุณเห็น ก็เท่าที่ชั้นอยากให้คุณเห็น เท่านั้นเอง...นี่คือความจริงของมนุษย์

อย่างที่บอก ถ้ามีเทคนิคทำเงิน ใครจะบอกคุณ..ขนาดพี่น้องยังไม่รู้เลย
ดังนั้น ไอ่ที่มาบอกว่าสอนรวย ...เป็นไรที่พื้น ๆ หาอ่านได้ตามซีเอ็ด ...สมัยนี้ มีไรบ้างที่หาอ่านไม่มี บอกหน่อย...ก๊อปกันไป ก๊อปกันมา

บางธุรกิจก็อยู่ได้อย่างดีเยี่ยม...เช่น ธุรกิจมวย ฟิตเนส...ขายพวกเสื้อกีฬา อะไรเงี๊ยะ ...เทรนด์คนรักสุขภาพมาแรงมาก

ตอนนี้ยังมีกระแสหากินกะคนรูปแบบใหม่ ดูลายนิ้วมือเด็ก...เฮ้อ สงสารคนไทยจริง ๆ ...จะไปดูทำไมไอ่ลายนิ้วมือหน่ะ...คนเป็นลูก เค้าชอบไร คนเป็นพ่อแม่จะไม่รู้เชียวหรือ

ธุรกิจนี้ชั้นไปสัมผัสมันเมื่อตอนซีพีนำเข้ามาแรก ๆ เลย...จำได้ตอนนั้นไปสมัครงาน เพื่อนไต้หวันพาไป ที่ตึกปัจจทรัพย์...นานมาก ต้องไปถามป้าพราวละว่าปีไหน

เพราะป้าพราวจ่ายเงิน เพื่อสแกนลายนิ้วมือ ...เค้าจะวิเคราะห์ออกมาเลยว่า ลายแบบนี้ สมองส่วนไหนทำงานดี มีลักษณะคล้ายสัตว์ตัวไหน...สัตว์ที่ว่า มีห้าแบบ..ชั้นจำได้ ป้าพราวคือ ห่านป่า และนกยุง
แล้วก็วิเคราะห์ว่า อีห่านป่า คือนิสัยยังไง เหมาะกะการทำอาชีพไร ที่จะดีจะเด่น...บอกมาเกือบสิบอาชีพ
ไม่มีคำว่า แน่นอน ...ทุกวันนี้ป้าพราว เธอไปเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรม ไม่เกี่ยวไรกะอีห่านป่า อีนกยุงที่ว่ามาสักนิด

ความรักของชอบของคน แปรผันไปตามเวลา และสิ่งแวดล้อมเสมอ...

เมื่อตอนเด็กๆ ชั้นมักจะบอกเสมอว่าโตมาอยากเป็นนักวิศวะ แต่โตมา กลับทำแม่งทุกอาชีพ..บอกตามตรง ไม่มีไรที่มันใช่จริงๆ...แต่ทำได้ทุกอย่าง

การดูลายนิ้วมือ กะ การดูโหวงเฮ้ง พอ ๆ กัน

คนจีนใช้หลักสถิติของการจดบันทึก ว่าคนหน้าแบบนี้นะ หูแบบนี้ ปากแบบนี้ ตาแบบนี้ จะเป็นไง...สถิติ คือตัวเลขที่อ้างอิงตามตัวเลข คนหมู่มาก

เอาง่าย ๆ เลย หน้าตาแบบทักษิณ ตามตำราคนจีนคือหน้านายพล มีบารมี ทำงานใหญ่...ใช่
แต่ รปภที่โรงงาน หน้าบานแบบนั้นเป๊ะ ๆ...ทำไมเป็น รปภ หล่ะ

จริง ๆ แล้ว พ่อแม่เองนั่นแหล่ะ ที่ไม่กล้ายอมรับความจริง ...วิทยาศาสตร์ก็มีบทพิสูจน์เขียนไว้มากมาย สมองซีกไหน ทำงานดี จะเก่งด้านไหน...ทำไมคุณไม่อ่าน. แต่แค่อยากได้ใบเซอฯ ว่าชั้นได้พาลูกไปตรวจลายนิ้วมือ จ่ายค่าซินแสแล้ว

ถามจริง...ถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์สแกนอ่านค่าผิด คุณก็เชื่อตามรีพอตที่ปริ้นออกมา...แล้วไปบังคับ เพราะคิดว่านี่คือการส่งเสริมลูกให้เก่ง

คิดดูลูกคุณจะน่าสงสารแค่ไหน...หรือคุณคิดว่า คอมฯ ไม่มีทางพลาด
ชั้นเชื่อในกฎของธรรมชาติเสมอ

ในอดีตเราไม่มีสิ่งเหล่านี้ เรายังอยู่ได้...ตอนนี้โลกเพี้ยน อะไรที่ทำออกมาหาเงินได้...ทำหมดเลย
และทุกอย่างก็กลายเป็นเหยื่อของการตลาด...ที่ใช้โค้ช ใช้คนดังมาโปรโมต...เอาเถอะ มีตังค์ก็ใช้ไป
ไม่ผิด ไม่มีใครผิด....แต่ผิดที่ว่า ไอ่คนที่ไปทำมา ก็มาทับถมลูกชาวบ้านที่เค้าไม่มีปัญญาไปทำ...
ไม่รู้ว่า ใคร โง่ กันแน่

ตอนนั้นชั้นเคยถามพี่ผู้จัดการว่า ทำไมถึงมีแนวคิดนี้...ที่นำสิ่งนี้มาไทย

คำตอบคือ เค้าเล่นหมากฮอสกันกะเด็ก แล้วแปลกใจทำไมเด็กพวกนี้เก่งหมากฮอสกัน ...เลยว่ามันต้องมีไรพิศดาร เลยทำการสแกนลายนิ้วมือ...ผลปรากฎว่า เด็กพวกนี้ที่ลายนิ้วมือออกมา มันมีการอ่านค่า เหมือนกัน...อนุมานได้ว่า ลายนิ้วมือนี่แหล่ะ สามารถวิเคราะห์สมองเอย ความเป็นอัจฉริยะของเด็กคนนั้นได้

เพื่อว่า พ่อแม่เด็กจะได้เข้าใจว่า ทำไมเด็กถึงเรียนไม่เก่ง...ถ้าวิเคราะห์ออกมาแล้ว อาจจะเก่งด้านดนตรี กีฬา ก็ว่าไป...จะได้สนับสนุนถูก

วันนี้มันถูกนำออกมาขายอีกครั้ง...โดยวิธีการใหม่
ชั้นถือว่าโชคดีนะ ที่ได้ไปสัมผัสมันก่อนใครเพื่อน...แต่มันไม่ใช่จริต เลยไม่ได้ทำตรงนั้น
อยากบอกพ่อแม่ว่า ถ้าคุณมีตังค์ ทำเถอะ...จะได้สบายใจว่าอยู่ในเทรนด์...

ถ้าพ่อแม่ไม่มีตังค์ อย่าคิดมากเลย...เพราะลูกของคุณ เค้าชอบไร...เค้าจะบอกคุณเอง...ขอเพียงคุณเปิดใจรับฟัง...คนเราชอบไร มักหมกมุ่นกะสิ่งนั้น ถ้าตาไม่บอด ยังไงก็เห็น

...คนจีนบอกว่า...兒孫自有兒孫福 แปลว่าลูกหลานเค้าพกบุญวาสนาของเค้ามาแล้ว...หมายความว่า เด็ก ๆ เค้าจะกิน จะใช้ จะเป็นไร ในอนาคต ...เค้าเตรียมมาหมดแล้ว คนเป็นพ่อแม่อย่ากังวลเลย
บางทีการที่พ่อแม่มีให้มากเกินไป...มันทำให้ลูกของเรา อ่อนแอเกินกว่าจะต่อสู้กับสังคมปัจจุบันนี้นะ
จริง ไม่จริง...เราไม่ต้องเถียงกัน

แค่อยากจะแชร์ให้ฟัง...


Lily


Facebook.com Fanpage : เจ๊าะแจ๊ะจีน & รีวิวเว่อร์ by เจ้ลีลี่
https://www.facebook.com/lilydiary/

Blog : Lilydiary
https://lilydiarys.blogspot.com

วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

เมดอินไชน่า..Made in China..ฤาจะหมดมนต์ขลังแล้ว..


เมดอินไชน่า..Made in China..ฤาจะหมดมนต์ขลังแล้ว..

ข่าวที่สะเทือนคนจีนหลายล้านคน..เมื่อหงไห่กรุ๊ป เจ้าของแบรนด์ ฟอกซ์คอนน์ OEM รายใหญ่ของโลก ผู้ผลิตชิ้นส่วนไอทีให้กับ แอปเปิ้ลแหว่ง..แดลล์... เอชพี..อีริคสัน..อะซุส...กำลังจะย้ายฐานการผลิตไปที่แดนภารตะ อินเดีย

ทำไมสะเทือน..เพราะถ้าหงไห่มีการจ้างงานเป็นล้านในจีน..ลองคิดดูถ้าคนเป็นล้านอยู่ดีๆ ตกงานขึ้นมา แล้วคนในครอบครัวเค้าหล่ะ..มันจะกลายเป็นความหายนะที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน
อะไรทำให้จีนหมดมนต์ขลังได้เร็วปานนี้...

อ่านตามสิ!!!

ด้วยการปั่นราคาที่ดินในจีนที่บ้าคลั่ง ราคาสูงลิบลิ่วแบบโรคจิตเท่านั้นที่จะกล้าซื้อ...ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไร้การควบคุม คนจนไม่มีปัญญาจะแดกไรแล้ว...ภาษีมหาโหด แพ็คแกจที่คุณไม่มีสิทธิ์เลือก มีแต่ผงกหัวจ่ายลูกเดียว..

คุณรู้มะ ค่าแรงของจีนตอนนี้สูงกว่า อินเดียถึง สามเท่าตัว..และสูงกว่าเวียดนาม สี่เท่า..อย่างงี้ใครจะอยู่ได้

คนทำธุรกิจทุกคนก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจ ด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น ราคาสินค้าเท่าเดิม...กำไรหายหมด..ทำไง ก็ต้องย้ายไปหาแหล่งผลิตต้นทุนราคาถูก...ซึ่งอินเดีย เป็นประเทศที่ได้รับเกียรติอันสูงส่งนี้..
แน่นอน ผู้นำประเทศอินเดียอ้าแขนต้อนรับอย่างดีงาม...เพราะจะมีการจ้างงานเกิดขึ้นล้านอัตรา..ถ้ามาไทย คงกรี๊ดส์ไม่แพ้กัน

ไปเมื่อไหร่..ปี2020ไปแน่ๆ..คาดว่าจะมีโรงงานของหงไห่กรุ๊ปคลอดทีเดียว สิบสองโรงพร้อมกัน...ลองเอาเครื่องคิดเลขจิ้มดู ว่ามีศูนย์กี่ตัว..เผลอๆเครื่องคิดเลขไม่มีพื้นที่พอต่อการคำนวนแน่ๆ
เมดอินไชน่า..ความภูมิใจชาวจีนสิบล้านคน ..อีกไม่กี่ปีข้างหน้า คำนี้ก็คงเป็นได้แค่ตำนาน
ด้วยค่าครองชีพที่ทะยานขึ้นทุกวัน ไม่มีทีท่าจะหยุดลงได้เลย..

ใครทำเป็นผู้ร้ายทำให้จีนเกิดวิกฤติในครั้งนี้

ภาษีตัวดี...ดูตาม
ภาษีมูลค่าเพิ่มในจีน 17% ..เงินประกันสังคม 33% ภาษีเงินได้20%

ดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคาร 10%...จิปาถะค่าใช้จ่าย.เช่นดับเพลิง..การบำบัดน้ำ..ค่าป้ายโน่นนี่นั่น สารพัดจะอ้าง.. ถ้าใครไปโรงงานจีนจะเห็นพวกข้าราชการ วันๆไม่ทำไร มาเยี่ยมโรงงาน ขอบุหรี่บ้าง ขอให้เลี้ยงข้าวบ้าง..ซึ่งขอบอกเลยว่า บุหรี่กระจอกไม่สูบกันนะ..ราคาต่ำต้อยมาก ยังซองละห้าร้อยบาทไทย ลองคิดดู มีหลายทีม วันๆก็ผลัดกันไปเยี่ยมโรงงาน..เพื่อบุหรี่ฟรีนี่แหล่ะ...แน่นอน จ่ายส่วยก็มีทุกที่..แต่ที่จีน เยอะเป็นพิเศษ..ไม่จ่ายเหรอ...ไอ่โน่น ไอ่นี่ไม่ผ่านเกณฑ์..เลือกเอาจะจ่าย หรือจะปิดโรงงาน

ต้นทุนที่แพงแสนแพงจากการขนส่ง

จีนใหญ่มาก ใครๆก็รู้..ต้นทุนค่าขนส่ง เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผู้ประกอบการปวดหัวที่สุด..ของจากมณฑลหนึ่งไปยังอีกมณฑลหนึ่ง ต้นทุนต้องบวกไปอีกสามเท่า...ไม่งั้นขาดทุนตายกันพอดี..ถ้าน้ำมันราคาขึ้นหล่ะ..ไม่ตายกันหมดหรือนั่น

การหาแหล่งเงินทุนที่ยากยิ่งกว่า..หาเข็มในท้องสนามหลวง

ธนาคารจีนมีแต่จะอุ้มเครือใหญ่ๆ..พวกเอสเอ็มอี นี่ไม่มีใครเห็นหัวเลย...จนเกิดเหตุการที่ตลกน่าขันคือ บริษัทใหญ่กลับมีเงินมากมายไม่รู้จะลงทุนไร เลยเอาเงินกู้ธนาคารมาปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่สูงแบบนอกระบบ ให้กับพวกเอสเอ็มอี...หัวใสมะ

ธุรกิจอสังหาฯ เชื้อโรคตัวดีที่ทำจีนระสำระส่าย..

ตอนนี้ถ้าใครไปจีน จะพบว่าตึกใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย..แต่..

ขายออกไปจริงๆมีไม่กี่ห้องเท่านั้น...ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการปั่นราคา สร้างกระแสหมด..คนส่วนใหญ่เอาเงินที่มี เทหมดหน้าตักไปซื้อคอนโดไว้มากมายหลายยูนิต..จนสุดท้ายเพิ่งรู้ว่าโดนต้ม..ตึกไม่ออก..แต่ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายธนาคาร มันตามตูดมาทุกวัน...เครียดจัดเลยทีนี้..ทำไง หนี้เอ็นพีแอลเต็มบ้านเต็มเมือง

จริง ๆ จะว่าไปแล้ว ไทยก็ไม่ต่างกะจีนเท่าไหร่..ในเรื่องการพัฒนาฝีมือแรงงาน..การยกระดับฝีมือแรงงานไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร...ในขณะที่อินเดีย เค้าเริ่มมีการให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างมาก..เพื่อเป็นตัวเลือกที่ดีในอนาคต

ตอนนี้ก็ต้องดูผู้นำประเทศว่าจะแก้ไขอย่างไร..กับปัญหาภายในประเทศตัวเอง...อีกทั้งการแข่งขันกับโลกภายนอกอีกหลายประเทศ..

และอเมริกากับยุโรปเองก็มีมาตรการจัดการกับจีนอีกรูปแบบในเรื่องของภาษี..จะมีการปรับราคาภาษีของที่นำเข้าจากจีนให้สูงขึ้น..เพื่อลดบทบาทความได้เปรียบในเรื่องค่าแรง อีกต่อไป..
โลกมีการแข่งขันกันดุเดือดขึ้นทุกวัน...

สัจจธรรมขอหนึ่งที่จีรังเสมอคือ...บนโลกใบนี้ไม่มีไรที่แน่นอนสักอย่าง

ดังนั้นถ้าคิดจะขายของไปจีนในยุคนี้ ดูเหมือนจะช้าไปนิดนึงละนะ...เพราะจีนไม่ได้รวยเหมือนที่ผ่านมา...แต่ของถูกและคุ้มค่า ก็ยังขายดี ขายได้เรื่อยๆ..

...บทความดีๆ..หาอ่านได้..จากมิสทุย..เขียนตามอารมณ์..ใครตามก็ได้อ่าน..ไม่ตามก็ถือว่าพลาด

อย่างที่บอก...ไม่มีไรแน่นอนบนโลกใบนี้

สวัสดี

Lily


วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

คุณค่าของความทรงจำกับการทัวร์ต่างประเทศ


เพิ่งได้รูปจากอาปิง เพื่อนรักที่ไปทัวร์นิวยอร์คด้วยกัน ..ภาพตึกสวย ๆ ในนิวยอร์ค
ถ่ายตอนนั่งรถบัสชมเมือง..กว่าได้แต่ละภาพนี่มือนี่แข็งไปหมดเลย เหน็บหนาว
เยือกเย็น ชื้น ระคนกัน..ลมพัดมาแตะหน้า อย่างกะใครเอาน้ำแข็งมาถู ๆ ตรงใบหน้าเลย

นิวยอร์ค สวยนะ แต่สกปรกหว่ะ..อย่าด่าคนจีนชอบขากถุย ฝรั่งตัวดีขากถุยก็ไม่น้อยนะ..
สิ่งที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะไปยุโรป จะไปฝั่งเมกาก็ดี..เรานึกไม่ออกเลยว่าประเทศเหล่านี้
ทำไมมันถึงยิ่งใหญ่ได้ก่อนชาวบ้านชาวเมืองเค้า..ตึกต่างๆถูกสร้างขึ้นเป็นร้อยปี
มั่นคงสวยงาม ..เป็นระเบียบดี

ของไทยก็สวยไปอีกแบบ แบบว่า รก ๆ..จริง ๆ มันก็เป็นศิลปะนะ ฝรั่งยังชอบเลย
เพราะเมืองเค้า ทุกอย่างถูกเซ็ตเป็นก้อนสี่เหลี่ยม..เดินทะลุกันได้หมด
ชั้นยังมีทำคลิปคนจรจัด ..ย้าวยาว

เมื่อก่อนผัวชั้นมักจะบ่นว่า ถ่ายไรเยอะแยะ..แต่ตอนนี้เค้ากลับเห็นด้วยกะชั้น ที่ว่า...
ถ้าเราไม่เก็บภาพเหล่านั้นไว้ เวลานึกถึงเราจะเสียดายทันที
และภาพถ่ายต่างๆจะมีค่าและน่าดูยิ่งขึ้น หลังจากที่เราไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว

แม้จะเหน็บหนาวเพียงใด เราก็สู้นะ..ใส่เสื้อกันฝนเพื่อกันลม..ฝนก็ตกอีก กรรม
เสื้อกันหนาวชั้นบางมากนะจะบอกให้..แต่กันฝนกันลมสุดยอด..เพราะมันเป็นเสื้อโค๊ต
นวัตกรรมของไต้หวัน..ที่กันน้ำจริงๆ และดูแลตลอดชีพ..หมีซื้อให้ปีที่แล้วเป็นของขวัญวันเกิด
หมื่นกว่าบาท สมราคามันแล้วนะ..จริง ๆ

เคยไปดูโค๊ทของเบอเบอรี่ ราคาแปดหมื่นกว่าบาท..เว่อร์มาก แต่เข้าใจนะว่าแบรนด์อะ
สถานะยังไม่เอื้อที่จะใส่เสื้อแบบนั้น..

การไปเที่ยวกันกะเพื่อน มันต้องรู้ใจกันจริง ๆ..สไตล์ลงตัว ความชอบไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน...
แต่ต้องนิสัยไปกันได้...ถ้าขี้เหนียวก็ต้องหาเพื่อนขี้เหนียว ถ้าสปอร์ตก็ต้องหาเพื่อนสปอร์ต
ถ้าเล่าเรื่องนิวยอร์คนี่ต้องเอารูปมาเล่า เล่าได้ทั้งชาติ

หลายคน โดยเฉพาะคนไทย อาจจะหาว่าพวกเราเวอร์มาก ที่บอกว่ามันเป็นความ
ภูมิใจระดับชาติ..ของชีวิตนึง

ชั้นจะอธิบายงี้นะ

เราคนจีนเด็กชาวดอยที่อาศัยบนเขาอันไกลพ้นติดชายแดน..กว่าจะได้รับสัญชาติไทย
ต้องใช้เวลา บางคนได้ตอนอายุจะห้าสิบ คิดดู..และบางคนถึงตอนนี้ยังไม่มีสัญชาติเลยก็มี..
นี่คือที่มาของคำว่า มีเงิน แต่ไปไหนไม่ได้จริง ๆ

และอเมริกาเป็นประเทศที่ขอวีซ่ายากทีเดียว..ไม่ใช่ว่าสเตทเม้นท์คุณดี ไปได้ ไม่ใช่นะ..
เข้าใจเสียใหม่เลย

ถ้าเหตุผลไม่เข้าหู..ไม่ชัดเจนในการแสดงออก ปฏิเสธแน่นอน

วัน ๆ คนไปรอคิวยื่นวีซ่าโดนปฏิเสธก็ไม่น้อย..ถามจริง คนเหล่านั้น ไม่มีเงินเดือน
ไม่มีค่าเดินทาง กล้าไปยื่นวีซ่าหรอ

ยิ่งพม่านี่จะไปอเมกานี่สมัยก่อนต้องเป็นลูกท่านหลานเธอจริง ๆ...ยากยิ่งกว่า
การแก้ผ้าเต้นกลางถนนอีก..ตอนนี้ยังยากอยู่นะ แต่พม่าไปอังกฤษกลับง่ายกว่าเยอะ..
เพราะพม่าเคยตกเป็นโคโรนี่ เมืองขึ้นของอังกฤษ

สมัยนี้มันก็ของ่ายขึ้นนิดนึง เพราะด้านภาพพจน์คนไทยที่หนีไปแอบซ่อนที่นั่น
ก็ดูเหมือนจะดีขึ้นนะ...อีกทั้งเงินเดือนในไทย ก็สูงขึ้นมากแล้ว จึงไม่ค่อยมีคนหนี
ไปตายดาบหน้าเป็นโรบินฮูดที่นั่นแล้ว

และด้วยค่าใช้จ่ายก็สูงลิบลิ่ว...แค่ค่าตั๋ว เครื่องบินนี่เกือบห้าหมื่น ถ้าไม่ซื้อล่วงหน้า
เป็นปี ๆ..อาหารการกิน ทุกอย่างเงินล้วน ๆ..ขนาดทัวร์ไปอเมกา ที่รวมทุกอย่าง
ราคาเป็นแสนอัพ..อย่าลืมนะ คุณต้องพกเงินไปซื้อของอีกด้วย ไปกลับมา สองแสนนี่
ถือว่าใช้น้อยแล้ว..นี่ไม่ได้อวดเลยนะ ไม่เชื่อลองไปดู

เว้นเสียจะกินมาม่าตลอดทั้งทริป...ไรก็ไม่ซื้อ

ดังนั้นคนส่วนใหญ่ถ้าเทียบกันแล้ว ยังนิยมไปยุโรปมากกว่า สวยกว่า ถูกกว่า
และเวลาบินก็น้อยกว่า

ไปทีเดียวได้หลายประเทศด้วย...คุ้ม

เรื่องนี้เล่ากี่ครั้งก็สนุกสนาน..เชื่อเถอะ ถ้าเคยเดินทางไปประเทศยักษ์ใหญ่
วันหลังไปประเทศไหนก็ง่าย...ใครที่ยังไม่เคยไปไหนแนะนำ ฮ่องกงก่อนเลย ถูกมาก
ทัวร์ช่วงนี้ ไม่ถึงหมื่น...ไปมาแล้ว ถูกกว่าไทยอีก

การออกประเทศ ทำให้เราเปิดโลกทัศน์ตัวเองนะ...
สิ่งที่คิดว่าถูกของเรา อาจจะเพี้ยนสำหรับคนอื่น

จบละ

Lily
มิสทุย นิราศนิวยอร์ค ภาคย่อย

วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ประสบการณ์เที่ยวต่างประเทศกระเป๋าโดนขโมย


ตั้งแต่เกิดเรื่องของในกระเป๋าเดินทางโดนขโมยไป..ทำให้ชั้นได้โตขึ้นอีกขั้นจริง ๆ
โตขึ้นเพราะ เราต้องอดทนรอคอยกับการได้รับเงินชดเชย...ไม่รู้ว่าจะมากน้อยแค่ไหน 
แต่มันก็ดีกว่าไม่ได้ จริงไม๊

ชั้นโทรไปที่สนามบินเพื่อหาเค้าเตอร์สายการบิน..เจ้าหน้าที่รีบโอนสายให้ทันที นี่คือธรรมชาติคน 
ปัดได้รีบปัดเลย..ไม่ฟังหรอกว่าเค้าจะมีส่วนรับผิดชอบเปล่า...จากนั้นไม่มีคนรับสายเลยที่เค้าเตอร์
สายการบิน..

หาต่อไปทางเน็ท..โทรไปก็ไม่รับสาย กดหนึ่ง กดสอง กดศูนย์ ...รีบโอนสายอีก...และที่แผนก
ไม่มีใครรับสาย...ดังแม่งทั้งวัน

เคยเจอแบบนี้เปล่า...คุณจะทำไงต่อไปดี..ยอมแพ้งั้นหรือ..

โทรไปสามครั้งถึงติด...ทีนี้ได้คุยกะป้าแก่ๆสักคนนึง..บอกให้โทรไปที่เค้าเตอร์สุวรรณภูมิ...
ชั้นบอกว่า ขอเบอร์มือถือผู้รับเรื่องเลยดีกว่า เพราะเคยโทรแล้ว ไม่มีใครรับสายจริงๆ...มัวแต่ปลูกผักแน่ๆ
จำไว้เลยว่า เวลาที่เราติดต่อไรกะใคร ขอชื่อขอแซ่มันไว้ซะ..เวลาติดต่อไปอีกครั้งจะได้ หาได้ถูกคน ไม่ต้องรอสายโอนไปโอนมา..จนอยากปามือถือทิ้ง

ได้มาสองเบอร์มือถือ...ตามคาด ไม่เคยว่างเลย สายแรก..ลองเปลี่ยนอีกเบอร์...ว่างละ..ผู้ชายคาดว่าน่าจะเป็นหนุ่มอายุน้อย...เค้าบอกว่าพี่รบกวนเขียนอีเมล์มานะครับ..แนบนี่ๆๆๆมาด้วย

หนึ่ง...พาสปอร์ต สอง...บอร์ดดิ้งพาส สาม...แทกที่ติดกระเป๋าเดินทาง..สี่...ใบเสร็จ...ห้า..เขียนสตอรี่มาเลย ว่าเป็นไง มาไง ของถึงหายได้...ดีนะ ชั้นมันนักเล่าเรื่องอะ

ถ้าเป็นคนที่เค้าไม่สันทัดในการเขียนนี่คงจะเล่ายากนิดนึง...วันหลังใครเจอแบบนี้ ขอให้บอกนะ จะช่วยเต็มที่เลย

เค้าก็บอกอีเมล์มาให้ชั้น...ดั้น บอกผิดอีก..ก็ว่าส่งไม่ผ่าน

แต่ดีที่ชั้นถามชื่อแซ่เค้าแล้วว่าชื่อไร..ตอนแรกเค้าบอกว่า เออพี่ ถ้าใครรับสายพี่ก็บอกคนคนนั้นเลย..ชั้นเลยถามกลับไปว่า เรื่องเดิมๆ จำเป็นต้องเล่าอีกกี่ครั้งถึงจะจบ...ทำไมน้องไม่รับเรื่องไว้หล่ะ จะได้จบที่คนคนเดียวไง...นี่สายการบินคุณห่วยแตกนะ ไม่ใช่ความผิดพี่

บางที คนเราต้องโหดบ้างนะ..โลกมันโหดร้ายเกินกว่าจะมาเป็นคนอ่อนหวาน..

เค้าก็อ่อนลงอย่างชัดเจน..ก็ปลอบใจชั้นแหล่ะ..เค้าบอกว่า เนี่ยก็มีเคสงี้เกิดบ่อยมาก เส้นทางอเมกามาไทยเนี่ยของหายบ่อย..แม่จ้าว ของหายแล้ว ไม่จับขโมยบ้างหรอ

ชั้นก็เข้าใจนะว่า สายการบินหน่ะ เค้าก็ไม่ได้มีพนักงานลำเลียงกระเป๋าเอง ต้องว่าจ้างท่าอากาศยานประเทศนั้น ๆ..แต่ก็ควรจะจับคนร้ายได้แล้วมั้ง..

สิ่งที่ชั้นรู้สึกเจ็บจิ๊ดๆเสมอคือไรรู้มะ..มันมีเวลาค้นหาของในกระเป๋าเดินทาง แม้กระทั่งว่า กระเป๋าตังค์แบบพกพาที่เก็บไว้อย่างดี มีหกใบ มันเลือกไปสามใบ คิดดู..กกนชั้นมันดั้นไม่เอา

นาฬิกาที่เก็บใส่กระเป๋าอีกใบอย่างดี มันเอาไปหมดเลย..น่าเหลือสักเรือนให้กูบ้าง แล้งน้ำใจชิบหาย
แม้แต่กระเป๋าใบใหญ่ของคุณผัวที่อยู่ด้านล่างสุด มันก็สอยไปเสียแล้ว...แค่ลองจินตนาการตอนมันคัดของ ก็สุดจะแค้นใจจริง ๆ นะ

แต่ความจริงคือ มันหายไปแล้วจริง ๆ...ตอนนี้ต้องตั้งสติในการแก้ไขปัญหาเท่านั้น...และชั้นก็ส่งอีเมล์เป็นภาษาจีนไปยังสายการบินเค้า..ยาวพรึดเลย..เค้าก็ตอบมาแบบมารยาทดีตามแพทเทิ้นที่ก๊อปกันมา..ให้ชั้นส่งรายละเอียด เล่าเหตุการณ์อย่างละเอียด และจะให้ชดใช้ไง...ฟังดูดีเนาะ..
ก็ต้องทำ.. 

ส่วนบัตรเครดิต ก็เป็นอุทาหรณ์ที่ดีว่า เวลาซื้อตั๋วก็ใช้บัตรเครดิตเถอะ..และดูด้วยใบไหนที่ประกันความเสียหายด้วย..อย่างน้อยก็ได้ตังค์มาดมเล่นนิดหน่อยก็ยังดี

แต่บัตรเครดิตก็ไม่ใช่จะเคลมง่ายๆนะ เค้าก็จะต้องให้สายการบินแสดงท่าทีก่อนว่า จ่ายไม่จ่าย จ่ายเท่าไหร่..และเค้าจะจ่ายส่วนต่างอีกเท่าไหร่ ..เคี่ยวพอกัน ไอ่ตอนให้กูสมัครนี่นะ แทบกราบนมกูเลย

แต่ชั้นดีใจนะ...ที่วันนี้ชั้นผ่านเหตุการณ์ที่เลวร้ายได้อย่างไม่สาหัสมาก..ถือว่าก้าวข้ามได้เร็ว..เพราะไรรู้มะ พูดตรง ๆ เลยนะ เพราะความเสียหายนี้ ชั้นสามารถรับมือได้...บอกตัวเองเลย ห้ามจน !

ชีวิตมันมีหลาย ๆ อย่างต้องเจอ...ก็เจอซะวันนี้ก็ยังดี จะได้ตระหนักรู้ได้ว่า อย่าประมาทอีกต่อไป..และดีใจอีกอย่างคือมิตรภาพที่ดีๆของเพื่อนหลายคน...จริงๆชั้นก็ขอบคุณเมย์นะ ที่เค้าฝากซื้อของแต่เค้าก็ยินดีรับผิดชอบช่วย โดยให้คิดเงินตามจริงที่ซื้อมา...ซึ่งของเค้าก็หายไปเยอะเลย แต่นั่นคือน้ำใจที่ให้มา
แล้วจะเล่าเรื่องนี้ตอนต่อไปว่า สายการบินมันช่วยไรได้บ้าง...สำหรับค่าตั๋วสามหมื่นแปดที่จ่ายไป ก็ดูว่าจะแสดงความรับผิดชอบยังไง ก็อยากรู้นะ...จริง ๆ

เรื่องนี้ชั้นก็ยังอยากเล่าให้มันจบแบบบริบูรณ์..แบบว่า นางเอกได้เงินแล้ว ทุกอย่างเคลียแล้ว อะไรเงี๊ยะ..ถ้าจะให้ดีก็ให้ผู้ร้ายโดนจับจะดีที่สุด ไม่งั้น ก็ไม่จบไม่สิ้นซะที...

ตีสามยังไม่อยากนอน...แบบว่าเจ็ทแลค

ชีวิต..ที่แข็งแกร่งเท่านั้น ที่จะอยู่รอดบนโลกใบนี้ได้..

Lily


วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ไปใช้บริการ "อาบ อบ นวด"


ครั้งหนึ่งในชีวิตของชั้น..ที่ไปใช้บริการ อาบ อบ นวด...

เมื่อปีที่แล้ว..วันนี้เอามาเล่าให้ฟังอีกครั้ง
วันนั้น จำได้ว่า...พวกเราไปทัศนศึกษาที่ระยอง.. และกลับมา พักที่พัทยา ตอนแรกกะจะไปนั่งดื่มอะไรเย็นๆแถวชายหาด... เพราะล้ามาทั้งวันจากการนั่งรถ...ก็มีเพื่อนผู้ชายโทรมาเกือบสิบสายมั้ง.ดังอยู่นั่นแหล่ะ

พอดีชั้นกำลังอาบน้ำอยู่เลยไม่ได้รับสาย... พอโทรกลับ บอก เจ้ตอนนี้พวกผมอยู่ตรง สบายจู๋อาบอบนวด... อ๋อรู้ละ..พอดีมีน้องคนรู้จักทำงานที่นั่นชื่ออาจง เออ งั้นเดี๊ยวกูตามไป..รีบโบกรถสองแถว นั่งไปถึงสายสาม ลงรถ เดินเข้าไป...

ปรกตินะ อาบอบนวดทั่วไป จะไม่ให้ผู้หญิงเข้าไปถึงด้านในได้เลย...เพราะ กลัวว่ามาตามหาผัวและตบตีกันที่นี่

ชั้นอุทานว่า โอว์ !!!เพื่อนผู้ชายเป็นฝูงนั่งจิบเบียร์ คุยกันคิกคัก หนุกหนาน รีบหันมา พร้อมยกแก้วเบียร์ มานี่เลยเจ้ ทางนี้คร้าบบบ...นี่พวกแก มานั่งส่องนางงามตู้กระจกนี่เอง เริดส์มากชีวิต

ชั้นบอกกะบ๋อยว่า น้ำส้มคั้นแก้วนึงนะน้อง..คือชั้นอะเป็นคนไม่ดื่มเหล้าอยู่แล้ว... เพื่อนผู้ชายที่ว่า ก็รุ่นน้องทั้งนั้นเลย..รีบยุยงกันใหญ่ บอกเจ้กล้ามะ..กล้าที่จะลงอ่างอาบน้ำ.. ลองใช้บริการดู เผื่อต่อไป จะได้แนะนำลูกทัวร์ เวลาจะเชียร์แขกอาบน้ำ.

ซึ่งเราในฐานะคนเป็นไกด์นำเที่ยว..เวลาที่ลูกทัวร์มาไทย การพาแขกไปอาบอบนวด ก็เป็นอีกรายกายนึงที่ทำเงินเลยทีเดียว..พูดง่าย ๆ ฟันเงินลูกทัวร์แบบง่าย ๆ เลยแหล่ะ...ไฟราคะปะทุขึ้นมา เท่าไหร่กูก็จ่าย เป็นงี้จริง 

แต่ผู้หญิงที่เป็นไกด์จะเสียเปรียบในการบรรยายให้เห็นภาพ ว่าอ่างอาบน้ำในไทย เค้ามีไรดี..เค้าทำไรบ้าง..การบรรยายสำคัญมาก เพราะเป็นการยั่วต่อมความอยากได้ดีทีสุด..

ชั้นใช้สมองอันน้อยนิดคิดสองวิ ตอบ อะเคร !!! อาจงก็รีบกุลีกุจอจัดการหาเด็ก..ได้มาละเจ้ คนนี้แหล่ะ เยี่ยม++

อืม... หน้าตาจิ้มลิ้ม นมโตๆ..เตี้ยไปนิดนึง ผิวน้ำผึ้งที่ใกล้หมดอายุ คือมันคล้ำ ๆ ไง...ชั้นเดินไปจ่ายตังค์หน้าเคาเตอร์ รูดไปพันห้าร้อยบาท ทิปชาวบ้านสองร้อย ...จำไว้ ทิปส์คือใบเบิกทาง ให้งานราบรื่น อย่างกเด็ดขาด

ชั้นเดินขึ้นไปชั้นสอง...เห็นห้องเต็มไปหมด น่าจะราว ๆ ยี่สิบห้องได้นะ...ห้องไหนประตูเปิดไว้ แสดงว่าพร้อมบริการ...ถ้าปิด แสดงว่า เอากันอยู่ข้างใน...เดินตามอีเด็กนั่นเข้าไปในห้อง..ที่เห็น มีเตียง อยู่ซ้ายมือ ตรงไปจะมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่.. อยู่ซ้ายมือเหมือนกัน แต่ต่างระดับ..คือในห้องจะมีสเต็บบันไดให้เดินลงไป..เด็กคนนั้นรีบแนะนำตัวว่าเธอชื่อ จุ๋ม.เพื่อไม่ให้เสียเวลา.. บอกเจ้ ถอดเสื้อผ้าเลยค่ะ!!!

ที่ห้องต้องออกแบบให้ต่างระดับเพราะ ถ้าพื้นมันเท่ากันหมด..น้ำต้องล้นเอ่อ เปียกไปทั้งห้องแน่ ๆ

เราต่างคนต่างถอดเสื้อผ้าของตัวเอง..ถามว่าอายไม๊ ไม่นะ เพราะชั้นไปทำสปาบ่อย...เรื่องแก้ผ้ามันจึงเคยชินแล้ว.. เดินไปที่อ่าง น้องจุ๋มก็เปิดน้ำเต็มอ่าง.. เอาครีมอาบน้ำใส่ลงไป แล้วตีให้ฟองมันฟูฟ่อง...ถ้าไม่คิดไรมาก ก็เหมือนอาบน้ำแร่ แช่น้ำนมหน่ะแหล่ะ

แต่ที่ชั้นรู้สึกตลกตัวเองคือ... มีคนอีกคนแก้ผ้าเดินไปเดินมาตรงหน้า...คุณเข้าใจมะ ถ้าเป็นผู้ชายก็ได้อารมณ์อีกแบบ..แต่นี่ผู้หญิงเหมือนกัน และไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเล้ย...เค้าเดินมาข้าง ๆ อ่าง เอาฝักบัวฉีดน้ำให้ชั้น...และถูหลังให้ พร้อมสระผมให้อีก..และที่กำลังจะตื่นเต้นจนหัวใจวายคือ...เค้าคนนี้มานั่งแช่ในอ่างด้วย.. คิดนะถ้าอีนี่เป็นทอม..กูคงเสร็จแน่ ๆ..ที่มานั่งในอ่างก็เพื่อถูหลังได้สะดวก.. จากนั้นเราสองคนก็ออกจากอ่าง...เพื่อมาทำ บีคอร์ส

ตอนแรกก็งงว่า ไอ่บีคอร์ส มันคือไรวะ..คุณก็คิดเหมือนชั้นใช่มะ

แต่ให้ชั้นเดาเล่น ๆ น่าจะมาจากคำว่า บดขยี้เปล่าไม่แน่ใจ อิอิ...ข้างๆ ก็มีแพยาง..แพยางที่เราเคยเห็นในทีวี ลอยอยู่ในสระว่ายน้ำ อย่างงั้นเลย... ตอนแรกก็สงสัยนะแพยางเอามาทำไรฟะ...คำตอบคือให้ชั้นนอนราบบนนั้นแหล่ะ น้องจุ๋มเอาน้ำสบู่ ตี ๆ ให้เกิดฟอง แล้วเทราดลงไปบนร่างกายของชั้น.. เวลานี้มันไม่อายแล้ว มันหนาวมากกว่า ความเย็นของแอร์ ผสม น้ำที่ราดบนตัว คิดดู

ฉากนี้เร้าใจสุด ๆ....ร่างกายอันเปลือยเปล่าของชั้น จะมีอีกร่างนึงที่บึกบึนมาทาบอยู่...เค้าใช้ร่างกายของตัวเองถูขึ้นถูลงบนตัวชั้น.. พูดง่าย ๆ ขั้นตอนนี้ ไม่ใช้มือทำไรทั้งสิ้น....ใช้แค่ร่างกายกะนมสองเต้าและน้องสาหร่าย ก็คือขนจิ๋มอันฟูๆนี่แหล่ะ...

บอกตามตรงมันจั๊กจี๊มากเลยอะ.. ชั้นหัวเราะคิกคัก แต่พยายามจะเก็บอาการ น้องจุ๋มถามชั้นว่า เจ้เอานิ้วไม๊คะ ...อุย!!! ไม่เอาหรอก ไม่ได้อยากมีเซ็ก....

ระหว่างนั้นชั้นก็ถามเค้านะ..ว่า วันหนึ่งรับแขกกี่รอบ ได้สี่รอบค่ะ เราก็คำนวนในใจ อืมรายได้ไม่เลวนะ..นางบอกว่านางอะมีลูกสองคนแล้ว... แต่สามีไม่ดี ขี้เหล้าไม่รับผิดชอบ เลยเลิกกันไป ก็มาทำอาชีพนี้ ถาม...ลูกรู้หรือเปล่า ไม่รู้ค่ะ กลัวลูกรับไม่ได้...

ชั้นก็ได้แต่ฟังอะนะ..ฟังแบบใช้ใจฟัง คือไม่ต้องตัดสิน...เพราะชีวิตของคนมันมีเงื่อนไขต่างกัน... เราไม่สามารถไปบอกว่า แบบนี้ดี แบบนี้ไม่ดี... ไม่ได้... เพราะเราไม่ได้รับผิดชอบชีวิตคนอื่น

จำได้ว่าการนวดแบบนี้กินเวลานานมาก.. ก็สบายแบบแปลก..มันได้ประสบการณ์ใหม่ๆสำหรับตัวเอง... ถ้าเป็นผู้ชาย ป่านนี้..จะเหลือเหรอ..หลังจากที่ถูหลังเสร็จ ก็ให้ชั้นพลิกร่าง คราวนี้มาถูกตรงด้านหน้าเลย..เข้าใจเลยว่า ทำไมผู้ชายถึงชอบจัง...ชั้นเป็นผู้หญิงนะ ยังจะเกิดอารมณ์เคลิ้มตามเลย...จากนั้นก็ลุกขึ้นมาล้างตัว ย้ายมานอนบนเตียงต่อ...

ทุกขั้นตอน...เค้าจะดูแล เทคแคร์คุณเป็นอย่างดี..ถ้าคุณไม่ถาม เค้าจะไม่พูด..เพื่อรักษาบรรยากาศสุนทรีนั้นไว้..

ลืมบอกไปว่า ก่อนจะลงอ่างอาบน้ำ..เค้าจะบ้วนปากให้สะอาด หอมสดชื่น...เพื่อให้รู้ว่า ปากของชั้นผ่านการฆ่าเชื้อและไม่เหม็นด้วย..ก็ดีนะ พูดถึง ไม่งั้นลองคิดดู ถ้าเจอคนปากเหม็น ๆ มาพูดไรใกล้หู คงอยากอ๊วก มากกว่ามีรมณ์...ว่ามะ

ขึ้นเตียงปุ๊ป..เงยหน้าขึ้นข้างบนเป็นกระจก.. เห็นตัวเองอยู่ในนั้น พระเจ้า!!!! ทำไมกูอ้วนงี้วะ ..นั่นมันตัวกูหรือนั่น...น้องจุ๋มถาม เจ้คะ จะเอานิ้วไม๊คะ..เอาอีกละ ถามรอบสอง.. ชั้นบอกไปว่า ทำไมต้องถามอีก เค้าบอกเผื่ออยากผ่อนคลายไง...เพราะผู้หญิงคนอื่นมาก็มีมารับบริการแบบนี้เหมือนกัน ชั้นถามมีหญิงไทยมาเหรอ..ไม่ค่ะ พวกผู้หญิงชาวจีนที่เป็นนักท่องเที่ยวค่ะ... อืมมม..ไม่อะ.. ไม่มีอารมณ์ ที่มาเนี่ยคืออยากรู้เค้าทำไรกันในนี้ ขอโลชั่นหน่อยสิ มาทาหลังให้หน่อย

ชั้นบอกเลยว่า ถ้าชั้นจะอยากมีความเสียว..ช่วยตัวเองที่บ้านดีกว่า..ทำใจไม่ได้จริง ๆ ที่จะให้ใครอีกคนเอานิ้วมาแหย่ตรงนั้น...

นางก็นวด ๆ ไป.. ก็ผ่อนคลายดีนะ ชั้นก็ถามอีกว่าเคยเจอลูกค้าโรคจิตเปล่า นางบอกเยอะมากค่ะ.. ญี่ปุ่นตัวดีเลย ชอบให้ใส่ส้นสูง เวลามีไรกัน บางทีก็ให้ใส่ถุงน่อง ใส่ชุดนักศึกษาด้วย.. คนจีนนี่เสียอย่างเดียวปากเหม็นมาก มาถึงปุ๊ป มาดูดปาก แลกลิ้น..เหมือนที่งูใช้ลิ้นฉกเหยื่อ...เออนี่น่าขำ...ชั้นหัวเราะคิคิ

นางบอกต่อว่า...บางคนหนีเมียมาจากห้างเซ็นทรัลนะเจ้ เมียเดินซื้อของนานเกิน... ผัวรอไม่ไหว รีบมาลงอ่างทันที พวกนี้สิบห้านาทีไม่เกิน จบเกมส์...ขืนช้า เดี๊ยวอีแก่รู้ ตายแน่ ๆ

และมีพวกแขกซาอุ ตัวเหม็นๆ มาถึงไม่อาบน้ำ จะรีบๆทำให้ทันที ถุงยางก็ไม่ใส่ อ้าว แล้วยอมเหรอ..ไม่ค่ะ ต้องให้ใส่ค่ะ ถ้าไม่ ก็จะปฏิเสธรับบริการ ผจก จะมาเคลียให้ค่ะ....และมีพวกแขกอินเดีย จั๊กแร้โครตเหม็นเลยเจ้...หนูเนี่ยนะ จะเป็นลม ทันทีที่กางแขนมาโอบกอด..ฟังไป จินตนาการไป ..ชีวิตไม่ง่ายเลยจริง ๆ

ถามต่ออีกว่า...แล้วจะทำไปถึงอายุกี่ปี นางบอกจนห้าหกสิบ ถ้าร่างกายยังไหวนะ โอว์...ห้าหกสิบ นางบอก มีนะเจ้ คนทำอาชีพนี้ห้าสิบยังสวยเลย หุ่นดีมาก เพราะเค้าดูแลตัวเองดีมากเลย
คำนี้มันกระแทกใจชั้นมาก..นี่อายุแค่สามสิบปลาย ๆ หุ่นไปซะแล้ว

แล้วชอบอาชีพนี้เหรอ...ไม่ชอบ แต่ชินชา มันคืองาน ก็อยากหาทุนไปประกอบอาชีพอื่น.. ถ้าเก็บเงินได้ไปแน่ ๆ...แต่ตอนนี้ไม่ไรได้เงินมากกว่าที่นี่ อดทนทำไปก่อน

ระหว่างที่นวดไป ถูครีมไป...ฟังไป..รู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเนิ่นานเหลือเกิน...คิดถึงผัวที่บ้านขึ้นมาเลย
ชั้นเชื่อว่าคนที่มา เค้าก็คงไม่ได้มาลงลึกรายละเอียดของพวกเค้าหรอก..แค่อยากมาผ่อนคลาย รีบๆทำให้เสร็จๆ แล้วจากไป..ถามว่าจะมีใครมาใช้ใจหลงรักคนเราเหล่านี้ คงยากนะ..

พอรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเบื่อหน่ายกะการเปลือยล่อนจ้อนนานๆแบบนี้...บอก โอเคพอเถอะ..เราสองคนลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าของใครของมัน ก่อนออกจากห้อง จ่ายทิปส์สามร้อย.. นางกราบขอบคุณชั้นและบอกว่าขอบคุณที่เลือกเค้า วันหลังขอให้มาอีก จะบริการดีๆ..ชั้นคิดว่าประสบการณ์แบบนี้ ครั้งหนึ่งในชีวิตก็เกินพอละ

ชั้นเดินลงบันใดปูพรมมาอย่างเฉิดฉาย..เห็นเด็ก ๆ ที่นั่งรอชั้นอยู่ข้างล่าง..ยิ้มแฉ่งเชียว...ไอ่พวกนี้ก็รับบริการเรียบร้อยแล้ว...มีบางคนไม่กล้าพอ ก็พูดว่าอิจฉาอะ อยากไปอาบจะตาย กลัวเมียตัดจู๋..ว่าไปชีวิต วันนี้ไม่กล้าพอ มาบ่อย เดี๊ยวก็กล้าเองแหล่ะ

มีน้องคนนึงบอกว่า เจ้อย่าไปบอกเมียผมนะ...เอามาค่าปิดปากหนึ่งพัน...แซวกันเล่น...ใครบ้าที่ไหนจะไปพูดวะ จู๋คุณคุณมีความสุข ก็ทำไปเถอะ

ทำไมชั้นถึงไปที่นั่น..หนึ่งคือ ชั้นแค่อยากรู้ว่าข้างในเค้าทำไรกัน ทำไมผู้หญิงถึงแอนตี้จะเป็นจะตาย....สอง ชั้นก็อยากเอาเรื่องนี้มาเล่าให้กะลูกทัวร์ฟัง เท่านั้นจริงๆ

วันนี้ได้เอามาเผยเป็นบทความ..คนอ่านคงได้ไรจากเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย

ชีวิต..หากเราเปิดใจมองหลายๆมุม เราจะพบว่า ไอ่ที่เราคิดอยู่บางทีมันมากเกินไป..เรียนรู้ที่จะเข้าใจทุกชีวิตในแบบที่เค้าเป็น ไม่ต้องตัดสินใคร..เพราะเราไม่ได้ไปยืนอยู่จุดนั้นที่เค้ายืนอยู่ จะได้รู้ดีกว่าชีวิตเค้าได้อย่างไร

อีกมุมนึงของชั้นนะ...ชั้นคิดว่า ผู้หญิงเหล่านั้น เป็นผู้เสียสละ ที่มาช่วยเราแบ่งเบาภาระบนเตียงต่างหาก...

เคยคิดมะ หลายๆคนมีลูกแล้ว...หรือหลายคนเครียดจากงาน..ไม่อยากมีกิจกรรมทางนี้เลย แต่คุณเคยคิดถึงสามีของคุณหรือเปล่า ว่าเค้าก็เป็นแค่คนคนนึงที่ยังมีความต้องการทางเพศเสมอ...ยังดีซะกว่าที่สามีของคุณจะไปเอากะคนรับใช้ที่บ้านให้ช้ำใจ หรือไม่ก็น้องสาวคุณ เหมือนในละครที่เราดูนั่นแหล่ะ

แบ่งปันจบละ..ย้าวยาว

มิสทุย..อยากให้ผู้หญิงยุคนี้ มีความสุขบนพื้นฐานของความเข้าใจโลก..อีกมุมนึง

ด้วยรักนะจ๊ะ

Lily