วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2559

เจ๊าะแจ๊ะจีน ซีรีย์ : เส้นทางสายหยก สไตร์เจ้ลีลี่ ตอนที่ 1


หยกเขียว ๆ จะไว้ใจได้ก๋า...
วันนี้มาเล่าเรื่องหยกที่หลาย ๆ คนหลงไหล..แต่เรื่องนี้ไม่ใช่บทความที่คุณ
เคยไปอ่านมานะ เพราะเชื่อว่าถ้าคุณอยากรู้จริง คุณเสิร์ชแป๊ปเดียวมันออกมา
เป็นแผงละ

แต่ชั้นจะพาคุณไปเที่ยวเมืองจีนกัน...แบบย้อนเวลาไปสี่ปีที่แล้ว
ในขณะที่เครื่องบินกำลังร่อนจอดที่สนามบินหมางซื่อ เขตปกครองพิเศษ
เต๋อหง..ยูนนาน

ตอนนั้นชั้นแค่รู้สึกว่าอีผู้หญิงข้าง ๆ ชั้นทำไม มันพูดมากชิบหายวะ...
เครื่องไม่ทันจอดสนิทก็ลุกขึ้นมายืนละ...ท่าทางลุกลี้ลุกลน
แต่รู้ว่าอีห่านี่หน้าตาสวยหว่ะ...อย่างนักร้องคนหนึ่งที่เคยเห็นในทีวี
ทุก ๆ ครั้งที่บินกลับบ้านที่เมืองยุ่ยรี่ ก็เบื่อไอ่ที่ต้องมาแวะที่สนามบินนี้...
เพราะต้องนั่งรถแท๊กซี่อีกหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ถึงจะถึงบ้าน...ซึ่งยุ่ยรี่ ก็ติดกับ
เขตแดนพม่าโดยมีแค่สะพานเป็นตัวเชื่อมเท่านั้นเอง

ระหว่างที่รอแท๊กซี่ อีนังนั่นก็วิ่งตามมาถามว่า เธอจะไปยุ่ยรี่ใช่ไม๊ ...
ใช่..ทำไมเหรอ เค้าบอกว่าเนี่ยจะขอไปด้วยคนนะ..บอกนิดนึงว่า
แท๊กซี่จะรับคนสี่คน..ถ้าไม่งั้นก็ต้องเหมาจ่าย...ถ้านั่งสี่คน
ช่วยแชร์จ่ายคนละสองร้อยหยวน..ถ้าไม่งั้นจ่ายเองห้าร้อยหยวน
ชั้นก็บอกได้สิ...นี่ยังรออีกสองชีวิตไม่มีใครเลย...งั้นเราหารกันเนาะ

ระหว่างทาง อีนังนี่มันก็พูดมากจริง ๆ...ถามชั้นว่าเธอเป็นคนซินเกียงเหรอ 
ชั้นบอกไม่ใช่ คนไทยหย่ะ...อุ้ย ทำไมพูดจีนชัดขนาดนี้หล่ะ..
โครตพ่อโครตแม่คนจีนโว้ย..

คนจีนนี่นะ เป็นพวกที่ไม่ค่อยสนใจชาวโลกหรอก มันอยากพูดไร 
ทำไรก็ทำไป เหมือนเราเป็นอากาศ...เค้าบอกว่าเนี่ยเค้ามาจากเมือง
เหนือของจีน...ตงเป่ย ตงเป่ยก็แถวๆฮาร์บิ้น ทิศตะวันออกเฉียงไปทางเหนือ...
สาวแถวนี้ร่างกายจะใหญ่ สูงโปร่ง และมีนิสัยซ่า ใจนักเลง...โผงผาง

ชั้นก็ถามเค้านะ ชื่อไรวะ...มันบอก ชื่อซิน ๆ จ้า..เพิ่งเรียนจบ ชั้นถามต่อ 
มาทำไมที่นี่ เค้าบอก พอดีนัดเจอกันแฟนเค้าชื่ออาซาน...อาซานเป็นคนยูนนาน 
แต่อยู่พม่า กำลังจะมายุ่ยรี่ในวันสองวันนี้...ทำเอากูงงเลย

จากหมางซื่อ ต้องขับรถลดเลี้ยวเคี้ยวคดไปตามเขาบ้าง ที่ราบบ้าง 
ผ่านหมู่บ้านเล็ก บ้านน้อย ทุ่งนาสองข้างทาง..อากาศดี้ดี..
อีเวรนี่มันดันเปิดกระจกลง ชั้นถามว่า นี่ทำไรของเธอเนี่ย...เค้าบอก 
นั่น ๆ ควาย ๆ ไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ...ในใจกูนะคิดว่า อีสัส ผมกูเสียทรงหมด...
หายใจเข้าลึก ๆ เออ ๆ ๆ ไหว้มันสิ...อีหันมาหัวเราะ บอกเธอนี่พูดตลกดี เอาอีก ๆ

แต่คนเราก็แปลกดีนะ..พอเรามีอารมณ์ที่จะโกรธ อีกฝ่ายไม่ได้รู้เรื่องกะเราเลย 
มันก็คลายไปเยอะเหมือนกัน...จากนั้นก็เปิดใจรับฟังที่มันเล่า ๆ ๆ ๆ...เออนะ 
คนคิดถึงแฟน มาตามหาแฟนถึงที่นี่ตัวคนเดียว น่าเห็นใจ..ชั้นก็บอกเค้าว่า
เอางี้ไปถึงยุ่ยรี่ เดี๊ยวจะไปส่งเธอที่บ้านละกัน แล้วว่าง ๆ จะโทรศัพท์ให้เธอ
มากินข้าวบ้านชั้นนะ...เอาเบอร์ไป

เค้าก็มาจูบหน้าชั้น บอก เธอน่ารักมากเลย...ชื่อไร กูชื่อลีลี่โว้ย เอามือปาด
น้ำลายออก..ในใจคิด แหว่ะ ๆ ๆ สัส มาจูบกู แปรงฟันเปล่าวะ
เราสามคนคนขับแท๊กซี่ก็คุยกันมันส์เชียว...จากแปลกหน้าก็คุ้นเคยละ

พอถึงยุ่ยรี่ ส่งซิน ๆ ไปที่พักเค้าก่อน..เป็นร้านขายพวกแฮนด์เมนทำจากไม้พยุง...
คนรับใช้พม่าก็มาหิ้วกระเป๋า และกล่าวขอบคุณชั้น ก็ให้เบอร์ไป..บอกพรุ่งนี้
จะมาหาที่ร้านนะ

จ้า..ลีลี่ ขอบใจเธอมากนะ เธอเป็นคนดีมากและแปลกที่สุดที่เคยพบมา...
ทำไมเหรอ เสียงเธอไง...แม่งแหลมชิบหาย  อีเวร...หัวเราะแล้วชั้นก็กลับบ้าน 
เพื่อไปเจอแม่สุดที่รักและหลาน ๆ ที่รอชั้นอยู่ในบ้าน...

ส่วนภาพที่นำมาประกอบ Story นี้ 
นี่เป็นเรื่องของการพนันหินหยก..เจ้าของซื้อหินในราคาสามหมื่นหยวน..
ผ่าปุ๊ป มีคนขอซื้อต่อในราคา หนึ่งล้านหยวน ทันที
หยกก็งี้แหล่ะนะ..บางคนพนันมาทั้งชีวิต ไม่เคยได้เลย..มีแต่เสียกะเสีย
บางคนก้อนเดียว พลิกชีวิตทันที..

ติดตามได้ที่ซีรี่ย์ เส้นทางสีเขียวของหยก ...
พรุ่งนี้มาอ่านต่อนะ

Lily

เพจ Facebook : เจ๊าะแจ๊ะจีน & รีวิว (เว่อร์) By Lily