วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

เมดอินไชน่า..Made in China..ฤาจะหมดมนต์ขลังแล้ว..


เมดอินไชน่า..Made in China..ฤาจะหมดมนต์ขลังแล้ว..

ข่าวที่สะเทือนคนจีนหลายล้านคน..เมื่อหงไห่กรุ๊ป เจ้าของแบรนด์ ฟอกซ์คอนน์ OEM รายใหญ่ของโลก ผู้ผลิตชิ้นส่วนไอทีให้กับ แอปเปิ้ลแหว่ง..แดลล์... เอชพี..อีริคสัน..อะซุส...กำลังจะย้ายฐานการผลิตไปที่แดนภารตะ อินเดีย

ทำไมสะเทือน..เพราะถ้าหงไห่มีการจ้างงานเป็นล้านในจีน..ลองคิดดูถ้าคนเป็นล้านอยู่ดีๆ ตกงานขึ้นมา แล้วคนในครอบครัวเค้าหล่ะ..มันจะกลายเป็นความหายนะที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน
อะไรทำให้จีนหมดมนต์ขลังได้เร็วปานนี้...

อ่านตามสิ!!!

ด้วยการปั่นราคาที่ดินในจีนที่บ้าคลั่ง ราคาสูงลิบลิ่วแบบโรคจิตเท่านั้นที่จะกล้าซื้อ...ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไร้การควบคุม คนจนไม่มีปัญญาจะแดกไรแล้ว...ภาษีมหาโหด แพ็คแกจที่คุณไม่มีสิทธิ์เลือก มีแต่ผงกหัวจ่ายลูกเดียว..

คุณรู้มะ ค่าแรงของจีนตอนนี้สูงกว่า อินเดียถึง สามเท่าตัว..และสูงกว่าเวียดนาม สี่เท่า..อย่างงี้ใครจะอยู่ได้

คนทำธุรกิจทุกคนก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจ ด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น ราคาสินค้าเท่าเดิม...กำไรหายหมด..ทำไง ก็ต้องย้ายไปหาแหล่งผลิตต้นทุนราคาถูก...ซึ่งอินเดีย เป็นประเทศที่ได้รับเกียรติอันสูงส่งนี้..
แน่นอน ผู้นำประเทศอินเดียอ้าแขนต้อนรับอย่างดีงาม...เพราะจะมีการจ้างงานเกิดขึ้นล้านอัตรา..ถ้ามาไทย คงกรี๊ดส์ไม่แพ้กัน

ไปเมื่อไหร่..ปี2020ไปแน่ๆ..คาดว่าจะมีโรงงานของหงไห่กรุ๊ปคลอดทีเดียว สิบสองโรงพร้อมกัน...ลองเอาเครื่องคิดเลขจิ้มดู ว่ามีศูนย์กี่ตัว..เผลอๆเครื่องคิดเลขไม่มีพื้นที่พอต่อการคำนวนแน่ๆ
เมดอินไชน่า..ความภูมิใจชาวจีนสิบล้านคน ..อีกไม่กี่ปีข้างหน้า คำนี้ก็คงเป็นได้แค่ตำนาน
ด้วยค่าครองชีพที่ทะยานขึ้นทุกวัน ไม่มีทีท่าจะหยุดลงได้เลย..

ใครทำเป็นผู้ร้ายทำให้จีนเกิดวิกฤติในครั้งนี้

ภาษีตัวดี...ดูตาม
ภาษีมูลค่าเพิ่มในจีน 17% ..เงินประกันสังคม 33% ภาษีเงินได้20%

ดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคาร 10%...จิปาถะค่าใช้จ่าย.เช่นดับเพลิง..การบำบัดน้ำ..ค่าป้ายโน่นนี่นั่น สารพัดจะอ้าง.. ถ้าใครไปโรงงานจีนจะเห็นพวกข้าราชการ วันๆไม่ทำไร มาเยี่ยมโรงงาน ขอบุหรี่บ้าง ขอให้เลี้ยงข้าวบ้าง..ซึ่งขอบอกเลยว่า บุหรี่กระจอกไม่สูบกันนะ..ราคาต่ำต้อยมาก ยังซองละห้าร้อยบาทไทย ลองคิดดู มีหลายทีม วันๆก็ผลัดกันไปเยี่ยมโรงงาน..เพื่อบุหรี่ฟรีนี่แหล่ะ...แน่นอน จ่ายส่วยก็มีทุกที่..แต่ที่จีน เยอะเป็นพิเศษ..ไม่จ่ายเหรอ...ไอ่โน่น ไอ่นี่ไม่ผ่านเกณฑ์..เลือกเอาจะจ่าย หรือจะปิดโรงงาน

ต้นทุนที่แพงแสนแพงจากการขนส่ง

จีนใหญ่มาก ใครๆก็รู้..ต้นทุนค่าขนส่ง เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผู้ประกอบการปวดหัวที่สุด..ของจากมณฑลหนึ่งไปยังอีกมณฑลหนึ่ง ต้นทุนต้องบวกไปอีกสามเท่า...ไม่งั้นขาดทุนตายกันพอดี..ถ้าน้ำมันราคาขึ้นหล่ะ..ไม่ตายกันหมดหรือนั่น

การหาแหล่งเงินทุนที่ยากยิ่งกว่า..หาเข็มในท้องสนามหลวง

ธนาคารจีนมีแต่จะอุ้มเครือใหญ่ๆ..พวกเอสเอ็มอี นี่ไม่มีใครเห็นหัวเลย...จนเกิดเหตุการที่ตลกน่าขันคือ บริษัทใหญ่กลับมีเงินมากมายไม่รู้จะลงทุนไร เลยเอาเงินกู้ธนาคารมาปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่สูงแบบนอกระบบ ให้กับพวกเอสเอ็มอี...หัวใสมะ

ธุรกิจอสังหาฯ เชื้อโรคตัวดีที่ทำจีนระสำระส่าย..

ตอนนี้ถ้าใครไปจีน จะพบว่าตึกใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย..แต่..

ขายออกไปจริงๆมีไม่กี่ห้องเท่านั้น...ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการปั่นราคา สร้างกระแสหมด..คนส่วนใหญ่เอาเงินที่มี เทหมดหน้าตักไปซื้อคอนโดไว้มากมายหลายยูนิต..จนสุดท้ายเพิ่งรู้ว่าโดนต้ม..ตึกไม่ออก..แต่ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายธนาคาร มันตามตูดมาทุกวัน...เครียดจัดเลยทีนี้..ทำไง หนี้เอ็นพีแอลเต็มบ้านเต็มเมือง

จริง ๆ จะว่าไปแล้ว ไทยก็ไม่ต่างกะจีนเท่าไหร่..ในเรื่องการพัฒนาฝีมือแรงงาน..การยกระดับฝีมือแรงงานไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร...ในขณะที่อินเดีย เค้าเริ่มมีการให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างมาก..เพื่อเป็นตัวเลือกที่ดีในอนาคต

ตอนนี้ก็ต้องดูผู้นำประเทศว่าจะแก้ไขอย่างไร..กับปัญหาภายในประเทศตัวเอง...อีกทั้งการแข่งขันกับโลกภายนอกอีกหลายประเทศ..

และอเมริกากับยุโรปเองก็มีมาตรการจัดการกับจีนอีกรูปแบบในเรื่องของภาษี..จะมีการปรับราคาภาษีของที่นำเข้าจากจีนให้สูงขึ้น..เพื่อลดบทบาทความได้เปรียบในเรื่องค่าแรง อีกต่อไป..
โลกมีการแข่งขันกันดุเดือดขึ้นทุกวัน...

สัจจธรรมขอหนึ่งที่จีรังเสมอคือ...บนโลกใบนี้ไม่มีไรที่แน่นอนสักอย่าง

ดังนั้นถ้าคิดจะขายของไปจีนในยุคนี้ ดูเหมือนจะช้าไปนิดนึงละนะ...เพราะจีนไม่ได้รวยเหมือนที่ผ่านมา...แต่ของถูกและคุ้มค่า ก็ยังขายดี ขายได้เรื่อยๆ..

...บทความดีๆ..หาอ่านได้..จากมิสทุย..เขียนตามอารมณ์..ใครตามก็ได้อ่าน..ไม่ตามก็ถือว่าพลาด

อย่างที่บอก...ไม่มีไรแน่นอนบนโลกใบนี้

สวัสดี

Lily


วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

คุณค่าของความทรงจำกับการทัวร์ต่างประเทศ


เพิ่งได้รูปจากอาปิง เพื่อนรักที่ไปทัวร์นิวยอร์คด้วยกัน ..ภาพตึกสวย ๆ ในนิวยอร์ค
ถ่ายตอนนั่งรถบัสชมเมือง..กว่าได้แต่ละภาพนี่มือนี่แข็งไปหมดเลย เหน็บหนาว
เยือกเย็น ชื้น ระคนกัน..ลมพัดมาแตะหน้า อย่างกะใครเอาน้ำแข็งมาถู ๆ ตรงใบหน้าเลย

นิวยอร์ค สวยนะ แต่สกปรกหว่ะ..อย่าด่าคนจีนชอบขากถุย ฝรั่งตัวดีขากถุยก็ไม่น้อยนะ..
สิ่งที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะไปยุโรป จะไปฝั่งเมกาก็ดี..เรานึกไม่ออกเลยว่าประเทศเหล่านี้
ทำไมมันถึงยิ่งใหญ่ได้ก่อนชาวบ้านชาวเมืองเค้า..ตึกต่างๆถูกสร้างขึ้นเป็นร้อยปี
มั่นคงสวยงาม ..เป็นระเบียบดี

ของไทยก็สวยไปอีกแบบ แบบว่า รก ๆ..จริง ๆ มันก็เป็นศิลปะนะ ฝรั่งยังชอบเลย
เพราะเมืองเค้า ทุกอย่างถูกเซ็ตเป็นก้อนสี่เหลี่ยม..เดินทะลุกันได้หมด
ชั้นยังมีทำคลิปคนจรจัด ..ย้าวยาว

เมื่อก่อนผัวชั้นมักจะบ่นว่า ถ่ายไรเยอะแยะ..แต่ตอนนี้เค้ากลับเห็นด้วยกะชั้น ที่ว่า...
ถ้าเราไม่เก็บภาพเหล่านั้นไว้ เวลานึกถึงเราจะเสียดายทันที
และภาพถ่ายต่างๆจะมีค่าและน่าดูยิ่งขึ้น หลังจากที่เราไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว

แม้จะเหน็บหนาวเพียงใด เราก็สู้นะ..ใส่เสื้อกันฝนเพื่อกันลม..ฝนก็ตกอีก กรรม
เสื้อกันหนาวชั้นบางมากนะจะบอกให้..แต่กันฝนกันลมสุดยอด..เพราะมันเป็นเสื้อโค๊ต
นวัตกรรมของไต้หวัน..ที่กันน้ำจริงๆ และดูแลตลอดชีพ..หมีซื้อให้ปีที่แล้วเป็นของขวัญวันเกิด
หมื่นกว่าบาท สมราคามันแล้วนะ..จริง ๆ

เคยไปดูโค๊ทของเบอเบอรี่ ราคาแปดหมื่นกว่าบาท..เว่อร์มาก แต่เข้าใจนะว่าแบรนด์อะ
สถานะยังไม่เอื้อที่จะใส่เสื้อแบบนั้น..

การไปเที่ยวกันกะเพื่อน มันต้องรู้ใจกันจริง ๆ..สไตล์ลงตัว ความชอบไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน...
แต่ต้องนิสัยไปกันได้...ถ้าขี้เหนียวก็ต้องหาเพื่อนขี้เหนียว ถ้าสปอร์ตก็ต้องหาเพื่อนสปอร์ต
ถ้าเล่าเรื่องนิวยอร์คนี่ต้องเอารูปมาเล่า เล่าได้ทั้งชาติ

หลายคน โดยเฉพาะคนไทย อาจจะหาว่าพวกเราเวอร์มาก ที่บอกว่ามันเป็นความ
ภูมิใจระดับชาติ..ของชีวิตนึง

ชั้นจะอธิบายงี้นะ

เราคนจีนเด็กชาวดอยที่อาศัยบนเขาอันไกลพ้นติดชายแดน..กว่าจะได้รับสัญชาติไทย
ต้องใช้เวลา บางคนได้ตอนอายุจะห้าสิบ คิดดู..และบางคนถึงตอนนี้ยังไม่มีสัญชาติเลยก็มี..
นี่คือที่มาของคำว่า มีเงิน แต่ไปไหนไม่ได้จริง ๆ

และอเมริกาเป็นประเทศที่ขอวีซ่ายากทีเดียว..ไม่ใช่ว่าสเตทเม้นท์คุณดี ไปได้ ไม่ใช่นะ..
เข้าใจเสียใหม่เลย

ถ้าเหตุผลไม่เข้าหู..ไม่ชัดเจนในการแสดงออก ปฏิเสธแน่นอน

วัน ๆ คนไปรอคิวยื่นวีซ่าโดนปฏิเสธก็ไม่น้อย..ถามจริง คนเหล่านั้น ไม่มีเงินเดือน
ไม่มีค่าเดินทาง กล้าไปยื่นวีซ่าหรอ

ยิ่งพม่านี่จะไปอเมกานี่สมัยก่อนต้องเป็นลูกท่านหลานเธอจริง ๆ...ยากยิ่งกว่า
การแก้ผ้าเต้นกลางถนนอีก..ตอนนี้ยังยากอยู่นะ แต่พม่าไปอังกฤษกลับง่ายกว่าเยอะ..
เพราะพม่าเคยตกเป็นโคโรนี่ เมืองขึ้นของอังกฤษ

สมัยนี้มันก็ของ่ายขึ้นนิดนึง เพราะด้านภาพพจน์คนไทยที่หนีไปแอบซ่อนที่นั่น
ก็ดูเหมือนจะดีขึ้นนะ...อีกทั้งเงินเดือนในไทย ก็สูงขึ้นมากแล้ว จึงไม่ค่อยมีคนหนี
ไปตายดาบหน้าเป็นโรบินฮูดที่นั่นแล้ว

และด้วยค่าใช้จ่ายก็สูงลิบลิ่ว...แค่ค่าตั๋ว เครื่องบินนี่เกือบห้าหมื่น ถ้าไม่ซื้อล่วงหน้า
เป็นปี ๆ..อาหารการกิน ทุกอย่างเงินล้วน ๆ..ขนาดทัวร์ไปอเมกา ที่รวมทุกอย่าง
ราคาเป็นแสนอัพ..อย่าลืมนะ คุณต้องพกเงินไปซื้อของอีกด้วย ไปกลับมา สองแสนนี่
ถือว่าใช้น้อยแล้ว..นี่ไม่ได้อวดเลยนะ ไม่เชื่อลองไปดู

เว้นเสียจะกินมาม่าตลอดทั้งทริป...ไรก็ไม่ซื้อ

ดังนั้นคนส่วนใหญ่ถ้าเทียบกันแล้ว ยังนิยมไปยุโรปมากกว่า สวยกว่า ถูกกว่า
และเวลาบินก็น้อยกว่า

ไปทีเดียวได้หลายประเทศด้วย...คุ้ม

เรื่องนี้เล่ากี่ครั้งก็สนุกสนาน..เชื่อเถอะ ถ้าเคยเดินทางไปประเทศยักษ์ใหญ่
วันหลังไปประเทศไหนก็ง่าย...ใครที่ยังไม่เคยไปไหนแนะนำ ฮ่องกงก่อนเลย ถูกมาก
ทัวร์ช่วงนี้ ไม่ถึงหมื่น...ไปมาแล้ว ถูกกว่าไทยอีก

การออกประเทศ ทำให้เราเปิดโลกทัศน์ตัวเองนะ...
สิ่งที่คิดว่าถูกของเรา อาจจะเพี้ยนสำหรับคนอื่น

จบละ

Lily
มิสทุย นิราศนิวยอร์ค ภาคย่อย

วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ประสบการณ์เที่ยวต่างประเทศกระเป๋าโดนขโมย


ตั้งแต่เกิดเรื่องของในกระเป๋าเดินทางโดนขโมยไป..ทำให้ชั้นได้โตขึ้นอีกขั้นจริง ๆ
โตขึ้นเพราะ เราต้องอดทนรอคอยกับการได้รับเงินชดเชย...ไม่รู้ว่าจะมากน้อยแค่ไหน 
แต่มันก็ดีกว่าไม่ได้ จริงไม๊

ชั้นโทรไปที่สนามบินเพื่อหาเค้าเตอร์สายการบิน..เจ้าหน้าที่รีบโอนสายให้ทันที นี่คือธรรมชาติคน 
ปัดได้รีบปัดเลย..ไม่ฟังหรอกว่าเค้าจะมีส่วนรับผิดชอบเปล่า...จากนั้นไม่มีคนรับสายเลยที่เค้าเตอร์
สายการบิน..

หาต่อไปทางเน็ท..โทรไปก็ไม่รับสาย กดหนึ่ง กดสอง กดศูนย์ ...รีบโอนสายอีก...และที่แผนก
ไม่มีใครรับสาย...ดังแม่งทั้งวัน

เคยเจอแบบนี้เปล่า...คุณจะทำไงต่อไปดี..ยอมแพ้งั้นหรือ..

โทรไปสามครั้งถึงติด...ทีนี้ได้คุยกะป้าแก่ๆสักคนนึง..บอกให้โทรไปที่เค้าเตอร์สุวรรณภูมิ...
ชั้นบอกว่า ขอเบอร์มือถือผู้รับเรื่องเลยดีกว่า เพราะเคยโทรแล้ว ไม่มีใครรับสายจริงๆ...มัวแต่ปลูกผักแน่ๆ
จำไว้เลยว่า เวลาที่เราติดต่อไรกะใคร ขอชื่อขอแซ่มันไว้ซะ..เวลาติดต่อไปอีกครั้งจะได้ หาได้ถูกคน ไม่ต้องรอสายโอนไปโอนมา..จนอยากปามือถือทิ้ง

ได้มาสองเบอร์มือถือ...ตามคาด ไม่เคยว่างเลย สายแรก..ลองเปลี่ยนอีกเบอร์...ว่างละ..ผู้ชายคาดว่าน่าจะเป็นหนุ่มอายุน้อย...เค้าบอกว่าพี่รบกวนเขียนอีเมล์มานะครับ..แนบนี่ๆๆๆมาด้วย

หนึ่ง...พาสปอร์ต สอง...บอร์ดดิ้งพาส สาม...แทกที่ติดกระเป๋าเดินทาง..สี่...ใบเสร็จ...ห้า..เขียนสตอรี่มาเลย ว่าเป็นไง มาไง ของถึงหายได้...ดีนะ ชั้นมันนักเล่าเรื่องอะ

ถ้าเป็นคนที่เค้าไม่สันทัดในการเขียนนี่คงจะเล่ายากนิดนึง...วันหลังใครเจอแบบนี้ ขอให้บอกนะ จะช่วยเต็มที่เลย

เค้าก็บอกอีเมล์มาให้ชั้น...ดั้น บอกผิดอีก..ก็ว่าส่งไม่ผ่าน

แต่ดีที่ชั้นถามชื่อแซ่เค้าแล้วว่าชื่อไร..ตอนแรกเค้าบอกว่า เออพี่ ถ้าใครรับสายพี่ก็บอกคนคนนั้นเลย..ชั้นเลยถามกลับไปว่า เรื่องเดิมๆ จำเป็นต้องเล่าอีกกี่ครั้งถึงจะจบ...ทำไมน้องไม่รับเรื่องไว้หล่ะ จะได้จบที่คนคนเดียวไง...นี่สายการบินคุณห่วยแตกนะ ไม่ใช่ความผิดพี่

บางที คนเราต้องโหดบ้างนะ..โลกมันโหดร้ายเกินกว่าจะมาเป็นคนอ่อนหวาน..

เค้าก็อ่อนลงอย่างชัดเจน..ก็ปลอบใจชั้นแหล่ะ..เค้าบอกว่า เนี่ยก็มีเคสงี้เกิดบ่อยมาก เส้นทางอเมกามาไทยเนี่ยของหายบ่อย..แม่จ้าว ของหายแล้ว ไม่จับขโมยบ้างหรอ

ชั้นก็เข้าใจนะว่า สายการบินหน่ะ เค้าก็ไม่ได้มีพนักงานลำเลียงกระเป๋าเอง ต้องว่าจ้างท่าอากาศยานประเทศนั้น ๆ..แต่ก็ควรจะจับคนร้ายได้แล้วมั้ง..

สิ่งที่ชั้นรู้สึกเจ็บจิ๊ดๆเสมอคือไรรู้มะ..มันมีเวลาค้นหาของในกระเป๋าเดินทาง แม้กระทั่งว่า กระเป๋าตังค์แบบพกพาที่เก็บไว้อย่างดี มีหกใบ มันเลือกไปสามใบ คิดดู..กกนชั้นมันดั้นไม่เอา

นาฬิกาที่เก็บใส่กระเป๋าอีกใบอย่างดี มันเอาไปหมดเลย..น่าเหลือสักเรือนให้กูบ้าง แล้งน้ำใจชิบหาย
แม้แต่กระเป๋าใบใหญ่ของคุณผัวที่อยู่ด้านล่างสุด มันก็สอยไปเสียแล้ว...แค่ลองจินตนาการตอนมันคัดของ ก็สุดจะแค้นใจจริง ๆ นะ

แต่ความจริงคือ มันหายไปแล้วจริง ๆ...ตอนนี้ต้องตั้งสติในการแก้ไขปัญหาเท่านั้น...และชั้นก็ส่งอีเมล์เป็นภาษาจีนไปยังสายการบินเค้า..ยาวพรึดเลย..เค้าก็ตอบมาแบบมารยาทดีตามแพทเทิ้นที่ก๊อปกันมา..ให้ชั้นส่งรายละเอียด เล่าเหตุการณ์อย่างละเอียด และจะให้ชดใช้ไง...ฟังดูดีเนาะ..
ก็ต้องทำ.. 

ส่วนบัตรเครดิต ก็เป็นอุทาหรณ์ที่ดีว่า เวลาซื้อตั๋วก็ใช้บัตรเครดิตเถอะ..และดูด้วยใบไหนที่ประกันความเสียหายด้วย..อย่างน้อยก็ได้ตังค์มาดมเล่นนิดหน่อยก็ยังดี

แต่บัตรเครดิตก็ไม่ใช่จะเคลมง่ายๆนะ เค้าก็จะต้องให้สายการบินแสดงท่าทีก่อนว่า จ่ายไม่จ่าย จ่ายเท่าไหร่..และเค้าจะจ่ายส่วนต่างอีกเท่าไหร่ ..เคี่ยวพอกัน ไอ่ตอนให้กูสมัครนี่นะ แทบกราบนมกูเลย

แต่ชั้นดีใจนะ...ที่วันนี้ชั้นผ่านเหตุการณ์ที่เลวร้ายได้อย่างไม่สาหัสมาก..ถือว่าก้าวข้ามได้เร็ว..เพราะไรรู้มะ พูดตรง ๆ เลยนะ เพราะความเสียหายนี้ ชั้นสามารถรับมือได้...บอกตัวเองเลย ห้ามจน !

ชีวิตมันมีหลาย ๆ อย่างต้องเจอ...ก็เจอซะวันนี้ก็ยังดี จะได้ตระหนักรู้ได้ว่า อย่าประมาทอีกต่อไป..และดีใจอีกอย่างคือมิตรภาพที่ดีๆของเพื่อนหลายคน...จริงๆชั้นก็ขอบคุณเมย์นะ ที่เค้าฝากซื้อของแต่เค้าก็ยินดีรับผิดชอบช่วย โดยให้คิดเงินตามจริงที่ซื้อมา...ซึ่งของเค้าก็หายไปเยอะเลย แต่นั่นคือน้ำใจที่ให้มา
แล้วจะเล่าเรื่องนี้ตอนต่อไปว่า สายการบินมันช่วยไรได้บ้าง...สำหรับค่าตั๋วสามหมื่นแปดที่จ่ายไป ก็ดูว่าจะแสดงความรับผิดชอบยังไง ก็อยากรู้นะ...จริง ๆ

เรื่องนี้ชั้นก็ยังอยากเล่าให้มันจบแบบบริบูรณ์..แบบว่า นางเอกได้เงินแล้ว ทุกอย่างเคลียแล้ว อะไรเงี๊ยะ..ถ้าจะให้ดีก็ให้ผู้ร้ายโดนจับจะดีที่สุด ไม่งั้น ก็ไม่จบไม่สิ้นซะที...

ตีสามยังไม่อยากนอน...แบบว่าเจ็ทแลค

ชีวิต..ที่แข็งแกร่งเท่านั้น ที่จะอยู่รอดบนโลกใบนี้ได้..

Lily


วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ไปใช้บริการ "อาบ อบ นวด"


ครั้งหนึ่งในชีวิตของชั้น..ที่ไปใช้บริการ อาบ อบ นวด...

เมื่อปีที่แล้ว..วันนี้เอามาเล่าให้ฟังอีกครั้ง
วันนั้น จำได้ว่า...พวกเราไปทัศนศึกษาที่ระยอง.. และกลับมา พักที่พัทยา ตอนแรกกะจะไปนั่งดื่มอะไรเย็นๆแถวชายหาด... เพราะล้ามาทั้งวันจากการนั่งรถ...ก็มีเพื่อนผู้ชายโทรมาเกือบสิบสายมั้ง.ดังอยู่นั่นแหล่ะ

พอดีชั้นกำลังอาบน้ำอยู่เลยไม่ได้รับสาย... พอโทรกลับ บอก เจ้ตอนนี้พวกผมอยู่ตรง สบายจู๋อาบอบนวด... อ๋อรู้ละ..พอดีมีน้องคนรู้จักทำงานที่นั่นชื่ออาจง เออ งั้นเดี๊ยวกูตามไป..รีบโบกรถสองแถว นั่งไปถึงสายสาม ลงรถ เดินเข้าไป...

ปรกตินะ อาบอบนวดทั่วไป จะไม่ให้ผู้หญิงเข้าไปถึงด้านในได้เลย...เพราะ กลัวว่ามาตามหาผัวและตบตีกันที่นี่

ชั้นอุทานว่า โอว์ !!!เพื่อนผู้ชายเป็นฝูงนั่งจิบเบียร์ คุยกันคิกคัก หนุกหนาน รีบหันมา พร้อมยกแก้วเบียร์ มานี่เลยเจ้ ทางนี้คร้าบบบ...นี่พวกแก มานั่งส่องนางงามตู้กระจกนี่เอง เริดส์มากชีวิต

ชั้นบอกกะบ๋อยว่า น้ำส้มคั้นแก้วนึงนะน้อง..คือชั้นอะเป็นคนไม่ดื่มเหล้าอยู่แล้ว... เพื่อนผู้ชายที่ว่า ก็รุ่นน้องทั้งนั้นเลย..รีบยุยงกันใหญ่ บอกเจ้กล้ามะ..กล้าที่จะลงอ่างอาบน้ำ.. ลองใช้บริการดู เผื่อต่อไป จะได้แนะนำลูกทัวร์ เวลาจะเชียร์แขกอาบน้ำ.

ซึ่งเราในฐานะคนเป็นไกด์นำเที่ยว..เวลาที่ลูกทัวร์มาไทย การพาแขกไปอาบอบนวด ก็เป็นอีกรายกายนึงที่ทำเงินเลยทีเดียว..พูดง่าย ๆ ฟันเงินลูกทัวร์แบบง่าย ๆ เลยแหล่ะ...ไฟราคะปะทุขึ้นมา เท่าไหร่กูก็จ่าย เป็นงี้จริง 

แต่ผู้หญิงที่เป็นไกด์จะเสียเปรียบในการบรรยายให้เห็นภาพ ว่าอ่างอาบน้ำในไทย เค้ามีไรดี..เค้าทำไรบ้าง..การบรรยายสำคัญมาก เพราะเป็นการยั่วต่อมความอยากได้ดีทีสุด..

ชั้นใช้สมองอันน้อยนิดคิดสองวิ ตอบ อะเคร !!! อาจงก็รีบกุลีกุจอจัดการหาเด็ก..ได้มาละเจ้ คนนี้แหล่ะ เยี่ยม++

อืม... หน้าตาจิ้มลิ้ม นมโตๆ..เตี้ยไปนิดนึง ผิวน้ำผึ้งที่ใกล้หมดอายุ คือมันคล้ำ ๆ ไง...ชั้นเดินไปจ่ายตังค์หน้าเคาเตอร์ รูดไปพันห้าร้อยบาท ทิปชาวบ้านสองร้อย ...จำไว้ ทิปส์คือใบเบิกทาง ให้งานราบรื่น อย่างกเด็ดขาด

ชั้นเดินขึ้นไปชั้นสอง...เห็นห้องเต็มไปหมด น่าจะราว ๆ ยี่สิบห้องได้นะ...ห้องไหนประตูเปิดไว้ แสดงว่าพร้อมบริการ...ถ้าปิด แสดงว่า เอากันอยู่ข้างใน...เดินตามอีเด็กนั่นเข้าไปในห้อง..ที่เห็น มีเตียง อยู่ซ้ายมือ ตรงไปจะมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่.. อยู่ซ้ายมือเหมือนกัน แต่ต่างระดับ..คือในห้องจะมีสเต็บบันไดให้เดินลงไป..เด็กคนนั้นรีบแนะนำตัวว่าเธอชื่อ จุ๋ม.เพื่อไม่ให้เสียเวลา.. บอกเจ้ ถอดเสื้อผ้าเลยค่ะ!!!

ที่ห้องต้องออกแบบให้ต่างระดับเพราะ ถ้าพื้นมันเท่ากันหมด..น้ำต้องล้นเอ่อ เปียกไปทั้งห้องแน่ ๆ

เราต่างคนต่างถอดเสื้อผ้าของตัวเอง..ถามว่าอายไม๊ ไม่นะ เพราะชั้นไปทำสปาบ่อย...เรื่องแก้ผ้ามันจึงเคยชินแล้ว.. เดินไปที่อ่าง น้องจุ๋มก็เปิดน้ำเต็มอ่าง.. เอาครีมอาบน้ำใส่ลงไป แล้วตีให้ฟองมันฟูฟ่อง...ถ้าไม่คิดไรมาก ก็เหมือนอาบน้ำแร่ แช่น้ำนมหน่ะแหล่ะ

แต่ที่ชั้นรู้สึกตลกตัวเองคือ... มีคนอีกคนแก้ผ้าเดินไปเดินมาตรงหน้า...คุณเข้าใจมะ ถ้าเป็นผู้ชายก็ได้อารมณ์อีกแบบ..แต่นี่ผู้หญิงเหมือนกัน และไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเล้ย...เค้าเดินมาข้าง ๆ อ่าง เอาฝักบัวฉีดน้ำให้ชั้น...และถูหลังให้ พร้อมสระผมให้อีก..และที่กำลังจะตื่นเต้นจนหัวใจวายคือ...เค้าคนนี้มานั่งแช่ในอ่างด้วย.. คิดนะถ้าอีนี่เป็นทอม..กูคงเสร็จแน่ ๆ..ที่มานั่งในอ่างก็เพื่อถูหลังได้สะดวก.. จากนั้นเราสองคนก็ออกจากอ่าง...เพื่อมาทำ บีคอร์ส

ตอนแรกก็งงว่า ไอ่บีคอร์ส มันคือไรวะ..คุณก็คิดเหมือนชั้นใช่มะ

แต่ให้ชั้นเดาเล่น ๆ น่าจะมาจากคำว่า บดขยี้เปล่าไม่แน่ใจ อิอิ...ข้างๆ ก็มีแพยาง..แพยางที่เราเคยเห็นในทีวี ลอยอยู่ในสระว่ายน้ำ อย่างงั้นเลย... ตอนแรกก็สงสัยนะแพยางเอามาทำไรฟะ...คำตอบคือให้ชั้นนอนราบบนนั้นแหล่ะ น้องจุ๋มเอาน้ำสบู่ ตี ๆ ให้เกิดฟอง แล้วเทราดลงไปบนร่างกายของชั้น.. เวลานี้มันไม่อายแล้ว มันหนาวมากกว่า ความเย็นของแอร์ ผสม น้ำที่ราดบนตัว คิดดู

ฉากนี้เร้าใจสุด ๆ....ร่างกายอันเปลือยเปล่าของชั้น จะมีอีกร่างนึงที่บึกบึนมาทาบอยู่...เค้าใช้ร่างกายของตัวเองถูขึ้นถูลงบนตัวชั้น.. พูดง่าย ๆ ขั้นตอนนี้ ไม่ใช้มือทำไรทั้งสิ้น....ใช้แค่ร่างกายกะนมสองเต้าและน้องสาหร่าย ก็คือขนจิ๋มอันฟูๆนี่แหล่ะ...

บอกตามตรงมันจั๊กจี๊มากเลยอะ.. ชั้นหัวเราะคิกคัก แต่พยายามจะเก็บอาการ น้องจุ๋มถามชั้นว่า เจ้เอานิ้วไม๊คะ ...อุย!!! ไม่เอาหรอก ไม่ได้อยากมีเซ็ก....

ระหว่างนั้นชั้นก็ถามเค้านะ..ว่า วันหนึ่งรับแขกกี่รอบ ได้สี่รอบค่ะ เราก็คำนวนในใจ อืมรายได้ไม่เลวนะ..นางบอกว่านางอะมีลูกสองคนแล้ว... แต่สามีไม่ดี ขี้เหล้าไม่รับผิดชอบ เลยเลิกกันไป ก็มาทำอาชีพนี้ ถาม...ลูกรู้หรือเปล่า ไม่รู้ค่ะ กลัวลูกรับไม่ได้...

ชั้นก็ได้แต่ฟังอะนะ..ฟังแบบใช้ใจฟัง คือไม่ต้องตัดสิน...เพราะชีวิตของคนมันมีเงื่อนไขต่างกัน... เราไม่สามารถไปบอกว่า แบบนี้ดี แบบนี้ไม่ดี... ไม่ได้... เพราะเราไม่ได้รับผิดชอบชีวิตคนอื่น

จำได้ว่าการนวดแบบนี้กินเวลานานมาก.. ก็สบายแบบแปลก..มันได้ประสบการณ์ใหม่ๆสำหรับตัวเอง... ถ้าเป็นผู้ชาย ป่านนี้..จะเหลือเหรอ..หลังจากที่ถูหลังเสร็จ ก็ให้ชั้นพลิกร่าง คราวนี้มาถูกตรงด้านหน้าเลย..เข้าใจเลยว่า ทำไมผู้ชายถึงชอบจัง...ชั้นเป็นผู้หญิงนะ ยังจะเกิดอารมณ์เคลิ้มตามเลย...จากนั้นก็ลุกขึ้นมาล้างตัว ย้ายมานอนบนเตียงต่อ...

ทุกขั้นตอน...เค้าจะดูแล เทคแคร์คุณเป็นอย่างดี..ถ้าคุณไม่ถาม เค้าจะไม่พูด..เพื่อรักษาบรรยากาศสุนทรีนั้นไว้..

ลืมบอกไปว่า ก่อนจะลงอ่างอาบน้ำ..เค้าจะบ้วนปากให้สะอาด หอมสดชื่น...เพื่อให้รู้ว่า ปากของชั้นผ่านการฆ่าเชื้อและไม่เหม็นด้วย..ก็ดีนะ พูดถึง ไม่งั้นลองคิดดู ถ้าเจอคนปากเหม็น ๆ มาพูดไรใกล้หู คงอยากอ๊วก มากกว่ามีรมณ์...ว่ามะ

ขึ้นเตียงปุ๊ป..เงยหน้าขึ้นข้างบนเป็นกระจก.. เห็นตัวเองอยู่ในนั้น พระเจ้า!!!! ทำไมกูอ้วนงี้วะ ..นั่นมันตัวกูหรือนั่น...น้องจุ๋มถาม เจ้คะ จะเอานิ้วไม๊คะ..เอาอีกละ ถามรอบสอง.. ชั้นบอกไปว่า ทำไมต้องถามอีก เค้าบอกเผื่ออยากผ่อนคลายไง...เพราะผู้หญิงคนอื่นมาก็มีมารับบริการแบบนี้เหมือนกัน ชั้นถามมีหญิงไทยมาเหรอ..ไม่ค่ะ พวกผู้หญิงชาวจีนที่เป็นนักท่องเที่ยวค่ะ... อืมมม..ไม่อะ.. ไม่มีอารมณ์ ที่มาเนี่ยคืออยากรู้เค้าทำไรกันในนี้ ขอโลชั่นหน่อยสิ มาทาหลังให้หน่อย

ชั้นบอกเลยว่า ถ้าชั้นจะอยากมีความเสียว..ช่วยตัวเองที่บ้านดีกว่า..ทำใจไม่ได้จริง ๆ ที่จะให้ใครอีกคนเอานิ้วมาแหย่ตรงนั้น...

นางก็นวด ๆ ไป.. ก็ผ่อนคลายดีนะ ชั้นก็ถามอีกว่าเคยเจอลูกค้าโรคจิตเปล่า นางบอกเยอะมากค่ะ.. ญี่ปุ่นตัวดีเลย ชอบให้ใส่ส้นสูง เวลามีไรกัน บางทีก็ให้ใส่ถุงน่อง ใส่ชุดนักศึกษาด้วย.. คนจีนนี่เสียอย่างเดียวปากเหม็นมาก มาถึงปุ๊ป มาดูดปาก แลกลิ้น..เหมือนที่งูใช้ลิ้นฉกเหยื่อ...เออนี่น่าขำ...ชั้นหัวเราะคิคิ

นางบอกต่อว่า...บางคนหนีเมียมาจากห้างเซ็นทรัลนะเจ้ เมียเดินซื้อของนานเกิน... ผัวรอไม่ไหว รีบมาลงอ่างทันที พวกนี้สิบห้านาทีไม่เกิน จบเกมส์...ขืนช้า เดี๊ยวอีแก่รู้ ตายแน่ ๆ

และมีพวกแขกซาอุ ตัวเหม็นๆ มาถึงไม่อาบน้ำ จะรีบๆทำให้ทันที ถุงยางก็ไม่ใส่ อ้าว แล้วยอมเหรอ..ไม่ค่ะ ต้องให้ใส่ค่ะ ถ้าไม่ ก็จะปฏิเสธรับบริการ ผจก จะมาเคลียให้ค่ะ....และมีพวกแขกอินเดีย จั๊กแร้โครตเหม็นเลยเจ้...หนูเนี่ยนะ จะเป็นลม ทันทีที่กางแขนมาโอบกอด..ฟังไป จินตนาการไป ..ชีวิตไม่ง่ายเลยจริง ๆ

ถามต่ออีกว่า...แล้วจะทำไปถึงอายุกี่ปี นางบอกจนห้าหกสิบ ถ้าร่างกายยังไหวนะ โอว์...ห้าหกสิบ นางบอก มีนะเจ้ คนทำอาชีพนี้ห้าสิบยังสวยเลย หุ่นดีมาก เพราะเค้าดูแลตัวเองดีมากเลย
คำนี้มันกระแทกใจชั้นมาก..นี่อายุแค่สามสิบปลาย ๆ หุ่นไปซะแล้ว

แล้วชอบอาชีพนี้เหรอ...ไม่ชอบ แต่ชินชา มันคืองาน ก็อยากหาทุนไปประกอบอาชีพอื่น.. ถ้าเก็บเงินได้ไปแน่ ๆ...แต่ตอนนี้ไม่ไรได้เงินมากกว่าที่นี่ อดทนทำไปก่อน

ระหว่างที่นวดไป ถูครีมไป...ฟังไป..รู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเนิ่นานเหลือเกิน...คิดถึงผัวที่บ้านขึ้นมาเลย
ชั้นเชื่อว่าคนที่มา เค้าก็คงไม่ได้มาลงลึกรายละเอียดของพวกเค้าหรอก..แค่อยากมาผ่อนคลาย รีบๆทำให้เสร็จๆ แล้วจากไป..ถามว่าจะมีใครมาใช้ใจหลงรักคนเราเหล่านี้ คงยากนะ..

พอรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเบื่อหน่ายกะการเปลือยล่อนจ้อนนานๆแบบนี้...บอก โอเคพอเถอะ..เราสองคนลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าของใครของมัน ก่อนออกจากห้อง จ่ายทิปส์สามร้อย.. นางกราบขอบคุณชั้นและบอกว่าขอบคุณที่เลือกเค้า วันหลังขอให้มาอีก จะบริการดีๆ..ชั้นคิดว่าประสบการณ์แบบนี้ ครั้งหนึ่งในชีวิตก็เกินพอละ

ชั้นเดินลงบันใดปูพรมมาอย่างเฉิดฉาย..เห็นเด็ก ๆ ที่นั่งรอชั้นอยู่ข้างล่าง..ยิ้มแฉ่งเชียว...ไอ่พวกนี้ก็รับบริการเรียบร้อยแล้ว...มีบางคนไม่กล้าพอ ก็พูดว่าอิจฉาอะ อยากไปอาบจะตาย กลัวเมียตัดจู๋..ว่าไปชีวิต วันนี้ไม่กล้าพอ มาบ่อย เดี๊ยวก็กล้าเองแหล่ะ

มีน้องคนนึงบอกว่า เจ้อย่าไปบอกเมียผมนะ...เอามาค่าปิดปากหนึ่งพัน...แซวกันเล่น...ใครบ้าที่ไหนจะไปพูดวะ จู๋คุณคุณมีความสุข ก็ทำไปเถอะ

ทำไมชั้นถึงไปที่นั่น..หนึ่งคือ ชั้นแค่อยากรู้ว่าข้างในเค้าทำไรกัน ทำไมผู้หญิงถึงแอนตี้จะเป็นจะตาย....สอง ชั้นก็อยากเอาเรื่องนี้มาเล่าให้กะลูกทัวร์ฟัง เท่านั้นจริงๆ

วันนี้ได้เอามาเผยเป็นบทความ..คนอ่านคงได้ไรจากเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย

ชีวิต..หากเราเปิดใจมองหลายๆมุม เราจะพบว่า ไอ่ที่เราคิดอยู่บางทีมันมากเกินไป..เรียนรู้ที่จะเข้าใจทุกชีวิตในแบบที่เค้าเป็น ไม่ต้องตัดสินใคร..เพราะเราไม่ได้ไปยืนอยู่จุดนั้นที่เค้ายืนอยู่ จะได้รู้ดีกว่าชีวิตเค้าได้อย่างไร

อีกมุมนึงของชั้นนะ...ชั้นคิดว่า ผู้หญิงเหล่านั้น เป็นผู้เสียสละ ที่มาช่วยเราแบ่งเบาภาระบนเตียงต่างหาก...

เคยคิดมะ หลายๆคนมีลูกแล้ว...หรือหลายคนเครียดจากงาน..ไม่อยากมีกิจกรรมทางนี้เลย แต่คุณเคยคิดถึงสามีของคุณหรือเปล่า ว่าเค้าก็เป็นแค่คนคนนึงที่ยังมีความต้องการทางเพศเสมอ...ยังดีซะกว่าที่สามีของคุณจะไปเอากะคนรับใช้ที่บ้านให้ช้ำใจ หรือไม่ก็น้องสาวคุณ เหมือนในละครที่เราดูนั่นแหล่ะ

แบ่งปันจบละ..ย้าวยาว

มิสทุย..อยากให้ผู้หญิงยุคนี้ มีความสุขบนพื้นฐานของความเข้าใจโลก..อีกมุมนึง

ด้วยรักนะจ๊ะ

Lily

วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

เมียน้อยข้ามชาติ


เมื่อวานมีเพื่อนคนนึงให้ช่วยเขียนบทความเรื่องเมียน้อยข้ามชาติ..
เมียน้อยที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเป็นชู้กะผัวชาวบ้านเค้า ในความรู้สึกของชั้น
เอาแบบตรง ๆ เลยนะ..

ตราบใดที่โลกนี้ยังมีจู๋ มีจิ๋ม..ยากที่เรื่องเหล่านี้มันจะหายไปจากโลกใบนี้

เคยมีชายแก่คนนึงมาปรึกษาชั้นเรื่องนี้เหมือนกัน..ว่าทำไมเค้าดีทุกอย่าง
แต่เมียดันไปมีชู้เป็นตำรวจที่ไม่มีไรเลย แถมหน้าตาก็ทุเรศสิ้นดี..
คุณรู้มะชั้นตอบว่าไง???
...
....
เอิ่มม..ชั้นตอบว่า เอาตรง ๆ เลยนะ..ลีลาของไอ่หมอนั่นมันต้องเด็ดกว่าเธอแน่นอน
ไม่งั้นเมียเธอคงไม่หลงไหลจะเป็นจะตายหรอกนะ..ความรักมันเอาชนะทุกอย่างได้..
แต่ถ้าปราศจากความรักแล้ว มีสิ่งเดียวที่เอาอยู่ นั่นคือไฟราคะ นั่นแหล่ะ..
ผู้หญิงกะผู้ชาย นอกจากจะเอากันอย่างสนุกสนานแล้ว คงไม่มีไรน่าตื่นเต้นเร้าใจ
กว่านี้แล้วหล่ะ..

ถ้าผู้ชายนกเขาไม่ขัน..ทำให้ผู้หญิงฝันค้างบ่อย ๆ..เตรียมเขาได้เลย..
ส่วนผู้หญิงก็นะ..ผัวจะเอา ไม่ให้เอา ..ข้อแม้เยอะ แข็งทื่อเป็นขอนไม้..
เตรียมเลื่อนขั้นเป็นเมียหลวงเลย

บางครั้งที่เมียมีชู้ ผัวมีเมียน้อย..มันต้องดูคู่นอนตัวเองก่อนว่า ผิดปรกติตรงไหนเปล่า...
อย่าเอาความบริสุทธิ์มาเป็นข้อแม้ว่าจะรักกันจนตาย..ไม่มีหรอก

บางคู่นะรักกันชิบหาย..อยู่ดี ๆ มันเกิดหมดรักกันดื้อ ๆ ก็มีนะ..แต่ยังทนอยู่เพราะ
ให้เกียรติอีกฝ่าย...นานไป กูไม่สนแล้ว กูขอมีชีวิตที่เหลือ ไปสู่ที่ชอบ ๆ ดีกว่าเยอะ
คนนอกยากจะเข้าใจ และเข้าไปตัดสินใจแทนได้ว่า ใครผิดใครถูก...ถูกตอนเอากัน
ผิดตอนเลิกกัน

ชั้นในฐานะผู้หญิงที่กุมผัวอยู่หมัด...บอกเลยว่า ง่าย ๆ เลยนะ อย่าไปง้อมันมาก
ผู้ชายหน่ะ..ดูแลตัวเองดี ๆ ทำตัวให้มีสมอง ไม่ใช่มีผัวปุ๊ป เพื่อนก็ไม่เอาละ..
วัน ๆ เกาะแต่ผัวตัวเอง บอกตามตรง ไม่นานผัวจะเบื่อแน่นอน..เพราะคนทุกคน
ย่อมอยากมีอิสระในบางโมเม้น...

คุณให้เกียรติกะผัวคุณเท่าไหร่ ผัวคุณก็จะเกรงใจคุณเท่านั้น...
ถ้ามันเจ้าชู้มาก ก่อนจะแต่งงานก็เป็น...แต่ยังจะเอาเป็นผัว แบบนี้ คุณเองนั่นแหล่ะ
ตาบอด หูหนวกด้วย..เพราะคิดแค่ว่า ความดีจะชนะใจเค้าได้...ถุย นั่นมันนิยาย
อย่าคิดจะไปเปลี่ยนผัวให้เป็นลูกชาย..แม่มันยังทำไม่ได้เลย คุณเป็นใคร

ส่วนไอ่ผู้หญิงที่มีชู้..มันคงอัดอั้นเต็มที บางทีไอ่ตอนก่อนแต่งมันคงไม่รู้ว่า ผัวมันใช้การ
ได้ไม่เต็มที่ไง..คือ คนอะมันมีสิทธิ์ที่จะทำไรก็ได้ ให้ตัวเองเติมเต็ม

บอกตามตรงนะ..เรื่องเงิน มันยังรองจากเรื่องใต้สะดือด้วยซ้ำไป..ไม่งั้น ป่านนี้ร้านเป็ด
ร้านไก่ คงได้เจ๊งกันไปหมดแล้ว

ถ้าเรื่องนี้ให้ชั้นเขียนเป็นเล่ม โอว์มันส์แน่ ๆ..นี่พยายามใช้ภาษาสุภาพมากละนะ
เอาเป็นว่า..จิ๋มใคร ใครคนนั้นต้องรู้ว่าจิ๋มต้องการอะไร..ส่วนจู๋ใคร ใครคนนั้นก็ต้อง
รับผิดชอบการกระทำนะ..

...ถ้าผัวชั้นมีชู้ ชั้นจะดูว่าอีนังนั่นสวยกว่าเปล่า สวยกว่า ถือว่า ผัวตาดี..ผ่าน กดไลค์ให้
ถ้ามันเกิดห่วยแตกกว่าชั้น ต้องขอหย่าทันที..รีบหาปิ๊ปดีกว่า..แสดงว่ากูนี่มันห่วยจริง ๆ

จบละ

วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

นิราศนิวยอร์ค ตอน : เม้าท์กะสจ๊วตบนเครื่องบิน


วันก่อนอยู่บนเครื่องได้นั่งเม้าท์กะสจ๊วตบนเครื่องบิน
..ซึ่งคนที่นั่งเครื่องนาน ๆ จะรู้ว่า ต้องลุกขึ้นยืนบ้าง เดินบ้าง เพื่อให้เลือดลมไหลเวียนดี
ไม่งั้นเท้าจะบวมได้นะ..

เดินไปที่หางเครื่องบิน ซึ่งจะเป็นที่เก็บพวกอาหาร เครื่องดื่มของคนทั้งลำ..ตรงนั้นจะมีห้องน้ำด้วย
สจ๊วตหนุ่มอายุยี่ห้า หล่อมาก เสียงนุ่มนิ่ม ไพเราะ ทักมาว่า ต้องการไรไม๊ครับ..ไม่ค่ะ แค่อยากเดินเล่นหน่ะ

ชั้นบอกกะเค้าว่า เนี่ยอยากรู้ว่าปกติพวกแอร์นอนที่ไหนกัน..อยากรู้มาก ๆ..แต่เค้าไม่บอกทันทีนะ
เค้ากลับตอบว่า มันเป็นความลับของสายการบิน ไม่อาจจะเผยได้..อืม คนจีนนี่มันพวกหัวโบราณ
นิยมจริง ๆ..ชั้นก็ยักไหล่ อะเคร ไม่บอกก็ไม่เป็นไร

สักพักเค้าก็เอาใบสมัครมาให้กรอก เพื่อทำบัตรสมาชิก ชั้นก็กรอกให้นะ..เค้าสงสัยว่าทำไมชื่อไทย พูดจีนได้คล่องจัง..บอกว่า นี่คนไทย เชื้อชาติจีนจ้า

คุยไปคุยมา...เค้าก็เล่าชีวิตให้ชั้นฟังเล็กน้อย..จากคนที่อยากเป็นครู อยู่ดีดีมาเป็นสจ๊วต ..เพราะรายได้ดี แต่เหนื่อยมาก

ชั้นถามเค้าว่า ดูเธอไม่น่าใช่คนกวางตุ้งนะ เพราะสำเนียงเธอไม่ใช่เลย พูดจีนกลางชัดจะตาย..เค้าผงกหัว ใช่ ผมเป็นคนซานตง ..อืม ซานตงชั้นเคยไปนะ เมื่อเจ็ดปีที่แล้ว..เมืองเล็กในมณฑลซานตง ชื่อว่า เหอเจ๋อ ..โอว์ จริงอะ ผมนี่เกิดที่เหอเจ๋อเลยนะเนี่ย

เออนะ คนเรามันมีวาสนาต่อกันจริง ๆ..

พี่ลีลี่ไปทำไรที่นั่น..เพราะปรกติเวลาเราคุยกะใคร เราจะพยายามเรียกชื่อฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกันมากขึ้น ชั้นเรียกเค้าว่า อาเฟย..บอกเค้าว่า ชั้นชื่อลีลี่นะ เรียกพี่ลีลี่ละกัน..

ชั้นบอกว่าครั้งแรกไป ไปเอาตัวอย่างสินค้า นอนวันเดียวก็บินกลับแล้ว..ครั้งที่สองไป ไปสั่งสินค้าและพักยาวเลย สองอาทิตย์คนเดียวที่นั่น...หือ ทำไมใจกล้างี้หล่ะ

ชั้นบอกเค้าว่า เมื่อก่อน ชีวิตชั้นมันไม่ได้มีค่างวดอะไร คือไปไหนก็ไ่ม่ต้องคิดไรมาก ...什麼都沒有 只有爛命一條。 ไม่มีไรเลย มีแต่ชีวิตเหี้ยๆชีวิตนึงเท่านั้นเอง ใครจะทำไรชั้นเล่า..ขำ คิคิ

เราคุยกันเรื่องชีวิตคนจีน อุปนิสัย..ขากถุยเอย ไม่อาบน้ำเอย ไม่รีดผ้า..สารพัด
ชั้นยังบอกเค้าว่าเนี่ยตอนนี้กำลังเขียนบล๊อคเกี่ยวกะคนจีน..เลยเล่าให้เค้าฟัง เค้าตื่นเต้นเชียว..ไม่คิดว่าเรื่องราวที่มันธรรมดาๆในจีน กลับมีมูลค่ามหาศาลในแง่ของความรู้

ชั้นยังบอกเค้าว่าตอนนี้กำลังวิจัยเรื่องแมงสาป..ว่าจะเขียนเรื่องนี้อย่างจริงจัง...ทั้งที่ชั้นเกลียดแมงสาปมาก..แต่มันเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์สำหรับคนไทยจริง ๆ
ถ้ามีโอกาสชั้นจะมานั่งสัมภาษณ์คนคนนึงที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้ที่จีน..ดีเทล ไม่ขอเล่าเยอะนะ
อาเฟยตอนแรกท่าทีออกแนวกั๊กๆหน่อย เพราะพวกนี้ต้องป้องกันข้อมูลของสายการบิน..นานไป คนเราพอเริ่มสนิทกันละ ถามไรก็ได้คำตอบตามนั้น...

สิ่งที่ชั้นกริ๊ดมากที่สุดคือ เค้าเปิดห้องนอนของแอร์ให้ชั้นได้เห็นด้วยแหล่ะ..เค้าบอกว่า ห้ามขึ้นไปนะ แต่ให้รู้ว่าสภาพมันเป็นไง..อืม ขอบคุณมากเลยนะเฟย


จริง ๆ มันเคยมีนักข่าวไปทำข่าวเรื่องนี้แหล่ะ..แต่เราไม่รู้ว่ามันอยู่ส่วนไหนของเครื่องบิน ตอนนี้รู้แล้ว..
แอร์กะสจ๊วตจะผลัดกันนอนพักคนละสามถึงสี่ชั่วโมง..ห้องนอนก็จะแบ่งเป็นล๊อค ๆ มีผ้าม่านปิดไว้ เหมือนเวลาเราไปร้านนวดแผนโบราณนั่นแหล่ะ..มีประมาณแปดล๊อคได้..เท่านั้นจริง ๆ

จริง ๆ ชั้นยังบอกเค้าว่าชั้นอยากไปสัมภาษณ์กัปตัน..เค้าบอกว่าไม่ได้ ยิ่งตั้งแต่เกิดเหตุตึกแฝดโดนถล่มที่อเมกา..ทุกอย่างมันตึงเครียดหมด...แต่ถ้าเป็นช่วงเปิดตัวเครื่องบินลำใหม่ แบบนี้เข้าไปพูดคุยได้..
ตอนนี้ทุกสายการบินเคร่งครัดกับกฎระเบียบมาก..แม้แต่เส้นทางการบินยังไม่บอกผู้โดยสารเลย..
ชั้นถามเค้าว่าทำไมแอร์พวกเธอร่างบึกบึนยังรับอะ..คนไทยนี่ผอมเพรียวอย่างเดียวเลย เค้าบอกว่าที่จีนไม่ได้ให้ความสำคัญกะหุ่นมากนัก..ที่เห็นหุ่นบึกบึนนั่น เป็นแอร์รุ่นแม่แล้ว...ทุกคนสามารถเป็นแอร์ได้ถึงอายุ 55 เว้นแต่จะลาออกก่อน

จริงเปล่าที่ว่าพวกแอร์ห้ามใส่แว่นตา หมายถึงสายตาสั้นไม่รับ..ไม่ แต่สายการบินจะให้คุณใส่คอนแทคเลนส์..อืมนะ นี่ชั้นคิดผิดมานานแสนนาน
แล้วอย่างไปอเมกา ได้พักกี่วัน ..สี่วัน

ทำไมไม่รับทำพรีออเดอร์หิ้วเครื่องสำอางหล่ะ...แค่นี้ก็เหนื่อยตายห่าแล้ว อยากพักผ่อน ชมเมืองมากกว่า

แล้วมีการแบ่งพรรคแบ่งพวก หมั่นใส้กันเปล่าเวลาทำงาน...ไม่นะ แต่ผู้หญิงจะหยุมหยิม มีจิกกันบ้าง แต่ทุกคนก็ช่วยกันให้งานเสร็จเร็ว ๆ

ถ้าแต่งงานจะเอาแอร์ด้วยกันมะ...ไม่ ผมอยากได้แม่บ้านที่ดูแลบ้าน เพราะอาชีพนี้บินตลอด จะไม่ได้เจอกันเลย..เหงา

สำหรับจีนการเป็นแอร์ยากมะ...ไม่นะ ชีวิตผมราบเรียบมากเลย เรียนจบ มาสมัครสอบ ได้งาน อบรมหกเดือน ก็บินเลย

ตอนนี้ที่จีนอาชีพนี้ไม่ใช่สิ่งที่วิเศษไรเลย มันแค่อาชีพนึงเท่านั้นเองนะพี่ลีลี่
คำถามที่ชั้นอยากถามมากคือ ทำไมอาหารบนเครื่องแม่งโครตไม่อร่อยเลย...ทั้งที่มีอาหารทะเล ทำไมไม่เสริฟวะ...คืองี้ ชั้นกะอาปิงมีสั่งอาหารพิเศษตอนซื้อตั๋วแล้ว อาหารของเราจึงอร่อยและดีกว่าชาวบ้านนิดนึง..

เค้าบอกว่า มันเป็นการลดต้นทุนอย่างนึงนะ ถ้าเราประกาศว่ามีตัวเลือกเยอะ ต้นทุนจะสูงขึ้น..ขนาดมีมาม่ายังไม่อยากให้ผู้โดยสารเอาไปนั่งกินกะที่เลย..แต่กินหลังเครื่องบินได้ เพราะคนเราถ้าเห็นคนอื่นมี ตัวเองก็จะต้องมีบ้าง..เป็นภาระให้แอร์เลยทีนี้

เค้าถามชั้นว่า ระบบความปลอดภัยที่จีนกะอเมกา ที่ไหนตรวจเข้มกว่า...คำตอบคือจีน
เพราะที่จีน เจ้าหน้าที่จะเอามือลูบตั้งแต่หน้าอกยันจิ๋ม..ผู้ชายนี่โดนจู๋แน่นอน..แต่อเมกาใช้เครื่องเอกเรย์เอา จีนไม่เชื่อเรื่องของระบบไฟฟ้าเหล่านี้หรอก มือลูบได้ฟิลลิ่งกว่าเยอะ
เค้ายังถามอีกว่า พี่ลี่คิดว่าจีนกะอเมกา มีไรที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง

คำตอบคือ แนวคิด ..อเมกาใช้ตรรกะ ไม่มีคำว่าอารมณ์เห็นอกเห็นใจเวลาทำงาน..จีน แม้จะโผงผาง แต่ยังมีน้ำจิตน้ำใจมากกว่าอีก

ครั้งหนึ่งชั้นเคยไปถึงสนามบินก่อนขึ้นเครื่อง สิบนาที..ปรกติปิดแน่นอน เจ้าหน้าที่มันด่าชั้นนะ แต่มันช่วยหารถส่งชั้นไปที่เครื่องบิน..ซาบซึ้งถึงวันนี้

ที่อเมกา วันนั้นชั้นลืมพาสปอร์ตไว้ร้านช๊อกโกแลต ..นึกว่าลืมที่ด่านตรวจ ให้เจ้าหน้าที่ช่วยหา เค้ากลับไม่กระตือรือร้นเลย พอชั้นขอร้องเค้า เค้าบอกว่านี่ปัญหาของคุณไม่ใช่ของชั้น..ในใจนะคิดว่า อีห่าเอ้ย กูรู้แล้ว ถ้ากูมีปัญญาไปตรวจสอบได้ ไม่ต้องพึ่งมึงหรอก..แล้วชั้นก็ยืนข้างหลังมัน มันบอก ถอยไปเดี๊ยวนี้ เหมือนในหนังเป๊ะเลย ประมาณว่า แกจะทำไรชั้น

นี่คือการทำงานที่ไร้อารมณ์อย่างยิ่ง..ทำงานเหมือนหุ่นยนต์
ในหนังเวลามันพูดกันตรง ๆ..ฉะกันแบบไม่ให้หน้า ก็งี้แหล่ะของจริง
ก่อนจบสนทนา ชั้นบอกว่าอาเฟย...ขอชุดล้างหน้าของชั้นบิสเนสคลาสให้หน่อยเส่...ถ้ามีเหลือนะ ที่อยากได้เพราะมันเป็นของ ซัลวาตอเร่ เฟอร์รากาโม่ไง

เพราะถ้าเต็มทุกที่นั่งก็คงไม่เหลือแน่ๆ..พูดแบบว่าเผื่อได้
เค้าก็เดินมาพร้อมยื่นให้กะชั้น..พี่ลี่ ช่างโชคดีมีเซ็ตเดียวนี่แหล่ะ..กริ๊ด ๆ ๆ
รีบเอาไปอวดอาปิง..เฮ้ยแก ชั้นได้ไอ่นี่ด้วยวุ้ย..เสียดายมีเซ็ตเดียว อยากขอให้แกด้วย
ก่อนลงเครื่อง เรายังเอาขนมยูโร่คัสตาดให้เค้าชิ้นนึง..ขอบคุณที่ให้ความรู้นะยะ

จบละ

ให้เสียงภาษาไทยโดย พันธมิตร

Lily


วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

นั่งรถชมเมือง โดย BigBus : นิราศนิวยอร์ค ตอนที่ 1


นั่งรถชมเมือง ใช้บริการของ บริษัท BigBus ..
ราคา 63 เหรียญต่อคน..สองวัน..จะลงที่จุดไหนก็ได้
ถ่ายรูปเสร็จค่อยขึ้นรถคันต่อไปได้เลย

เสียดายนิวยอร์ควันนี้มีฝนปรอย ๆ..หนาวมาก
มือนี่แข็งไปหมดเลย

วันพุธอากาศจะดี..เราค่อยไปนั่งเฮลิคอปเตอร์ชมวิวกัน...
ตอนนี้รอเวลารถออก จะไปชมเมืองบลู๊คลิน...แล้วค่อยมานั่งเรือชมวิวต่อ..
นี่ลงเครื่องตีห้า มาถึงที่พัก อาบน้ำเสร็จ ออกมาเที่ยวเลยนะ..ไม่ได้นอนเลย
นั่งเครื่องจากไทยไปจีน สามชั่วโมงครึ่ง...จากกวางเจา บินมานิวยอร์ค
อีก สิบห้าชั่วโมง...ล้ามาก

เป็นช่วงหนึ่งของชีวิตที่นั่งเครื่องนานมากจริง ๆ...
เย็นนี้ กินอาหารไทย...ที่นี่อาหารไทยอร่อยนะ และดีไซน์เก๋มาก..
ห้องน้ำแต่ละร้านสู้กันสุด ๆ

...ถ้าใครอยากหาแรงบันดาลใจ มาที่นี่สักครั้งสิ...ความฝันของคนทุกคน
เป็นจริงได้ ที่นี่...แค่คุณกล้าแสดงออก ทุกอย่างไม่มีคำว่า เป็นไปไม่ได้

จะพาอาปิงนั่งซับเวย์ ...ดูสิว่า เมืองหนู มันเป็นไง...
แปดปีที่แล้ว กับวันนี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง

สิ่งที่เหมือนเดิม คือหัวใจที่สวยงาม

แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือ..ความสามารถทางการจับจ่ายใช้สอย..อยากบอกว่า
ถ้าออกมาเที่ยวนะ ไม่มีเงิน มันไม่ค่อยสนุกนัก

วันนี้ชั้นอยากซื้ออะไรก็ได้ แบบว่าไม่ต้องคิดอีกต่อไปแล้ว..

มิสทุย...นิราศนิวยอร์ค

Lily

Facebook : เจ๊าะแจ๊ะจีน & รีวิว (เว่อร์) by เจ้ลีลี่
https://www.facebook.com/lilydiary/

สิ่งที่คนขายหยก เค้าจะไม่ทำกัน



สิ่งที่คนขายหยกเค้าจะไม่ทำกัน...คือ ตีราคาหยกที่อยู่บนร่างกายของคนอื่น..เพราะหยกเป็นอัญมณีที่ไม่มีราคากำหนดเหมือนพวกเพชร..

บางทีแค่หัวแหวนเม็ดเล็ก ๆ เท่าเหรียญห้าสิบสตางค์สิ่งที่คนอื่นสวมใส่อยู่อาจจะมีราคาเป็นร้อยล้านบาท...หรือบางทีอาจจะมีราคาที่ซื้อแค่หลักร้อยบาทเท่านั้น

จะแย่แค่ไหน ถ้าเราอยู่ ๆ ไปทายราคาผิด...

มันเป็นเรื่องแปลกแต่จริง...ไร้ราคากลาง..ขายตามความพอใจของคนขาย แต่อาศัยประสบการณ์และเล่นกับความรู้สึกของคน

ความชอบของคน มันเอาแน่เอานอนไม่ได้....เห็นปุ๊ปถูกชะตา แพงเกินความจะเป็น ก็ซื้อ..บางทีสวยงาม ราคาสมเหตุสมผล กลับไม่เอา

..ตอนที่อยู่ยุ่ยรี่ ชั้นกะซิน ๆ เราสองคนจะพกไฟฉายประจำตัวไปส่องหยกเล่นกันเสมอ...



Lily

Facebook : เจ๊าะแจ๊ะจีน & รีวิว (เว่อร์) by เจ้ลีลี่
https://www.facebook.com/lilydiary/

วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

เจ๊าะแจ๊ะจีน by Lily ตอน เส้นทางสายหยก ตอนที่ 5




เออนี่รู้สึกระยะเวลาไม่กี่นาทีที่กลับมา เล่าได้เยอะเป็นหน้า ๆ เลยเนาะ...เราเรียนรู้ไปกะสิ่งที่เราเห็น..จีน ดีอยู่อย่างคือ ไม่มีใครมาสนใจ นินทาคุณหรอกว่า คุณจะใส่อะไร ถือกระเป๋าอะไร ขับรถยี่ห้อไหน..ที่ยุ่ยรี่ คนเค้าจะนั่งจับกลุ่มเล่นไพ่กันหน้าร้าน มีทั้งไพ่กระดาษ และไพ่นกกระจอก ...อีกมือก็ถือขันข้าวกินไปด้วย มีคนเชียร์นั่งข้าง ๆ ประกบ พวกนี้จะได้ค่าทิปส์เวลาที่คนเล่นได้ตังค์...เพราะถือว่านำความเฮงมาให้....จึงมีคนที่คอยหากินกะอาชีพนี้เสมอ

แต่คนพวกนี้ก็ฉลาดนะ ต้องดูห่าง ๆ ก่อน ว่าใครกำลังดวงดี...และต้องรู้นิสัยผู้เล่นด้วย ว่าผู้เล่นเค้าชอบให้มีคนประกบหรือเปล่า...เพราะบางคนเค้าถือนะ เค้าไม่ชอบให้ใครมายืนข้างหลัง หรือนั่งข้าง ๆ..บางคนชอบให้คนนั่งฝั่งซ้าย บางคนชอบให้ไปยืนที่ฝ่ายตรงข้าม...คนทำอาชีพนี้ก็ต้องรู้ใจลูกค้าของคุณ ไม่ใช่ไปยืนสุมสี่สุ่มห้า พอเค้าเสียไพ่ ทีนี้มันจะด่าแบบไม่เกรงใจเลย...เพราะคนจีนด่าคนไม่เคยอ้อมค้อม ตรงมากกก แทงทะลุหัวใจเลย

เล่นไปก็ขากถุยไป ก็เรื่องปรกติของพวกเค้า...ถนนจึงเต็มไปด้วยไอ่ขากถุยนี่แหล่ะ ขี้หมาก็มีบ้าง แต่ไม่เยอะ...

เพราะหมาเป็นสัตว์ต้องห้ามที่จะมาเดินเพ่นพ่าน...เทศกิจจะขับรถวนรอบเมืองวันละหลายรอบ เห็นปุ๊ป ใช้เชือกคล้องคอ ดึงขึ้นรถทันที..และก็เอาไปช๊อตตาย นี่คือเรื่องจริงนะ

ภาพที่เห็นบ่อย ๆคื อเจ้าของหมา ตามหาหมาตัวเอง...แล้วคนข้างถนนก็จะบอกว่าป่านนี้เป็นศพไปแล้วหล่ะ...ถ้าเราอ่านเราจะคิดว่าทำไมป่าเถื่อน จีนไม่ได้มีกฎหมายว่าห้ามเลี้ยงสัตว์ แต่ห้ามออกมาเพ่นพ่าน เพราะหมาเนี่ยมันก็มักจะอึไปเรื่อยเปื่อย คุณลองคิดตามนะ แค่คนพันสามร้อยล้านเดินตามถนนก็ว่าเยอะละ ถ้าขืนปล่อยให้สัตว์ออกมาเพ่นผ่าน ไม่ไปกันใหญ่หรือบ้านเมืองนี้....และอย่าหวังว่าพอเลี้ยงไปแล้วเบื่อจะเอาไปปล่อยวัด แบบที่คนไทยทำ...วัดที่จีน ต้องจ่ายค่าผ่านประตูนะยะ...ไม่ใช่อยากเข้าไปกราบก็กราบได้เลย แค่คุณอุ้มหมาไป เค้าก็ไม่ให้คุณเข้าไปแล้ว

จริง ๆ วัดที่จีนต้องจ่ายค่าผ่านประตู เค้าถือว่าไว้บำรุงวัด...ส่วนนี้ชั้นก็ไม่ชอบใจนัก...แต่ทำไงได้ เค้าทำกันมาแบบนี้มานาน ชั้นแค่คนไปเยือน ต้องหลิ่วตาตาม ไม่ชอบใจก็ไหว้พระที่บ้านแทนละกัน...แทนที่จะไปวิจารณ์เค้าว่าทำไม่ถูก ไม่ถูกเรา อาจจะเป็นสิ่งที่ดีงามของเค้าก็ได้

ว่าเรื่องหมาแล้วเนี่ย แมวก็เหมือนกัน...ถ้าออกมาเดินที่เราเรียกว่า แคทวอล์ค สุดท้ายนะ ...โน่นได้ไปเดินบนสวรรค์แน่นอน..จำได้คนรักสัตว์เลี้ยง ต้องดูแลพวกมันดี ๆ

แต่ถ้าอยู่ที่เมืองกวางตุ้ง รับรองสัตว์เหล่านี้เสร็จแน่ๆ...ถูกจับไปทำหมาตุ๋นเรียบร้อยโรงเรียนจีน...จึงเป็นเรื่องยากที่จะเห็นหมา เห็นแมวเพ่นพ่านแถวนั้น...เพราะทุกวันนี้ หมาตุ๋น แมวตุ๋นต้องซื้อกินกันอยู่แล้ว
อยู่จีน...เห็นอะไรต้องทำใจว่ามันคือการเห็น แล้วจบไป...อย่าเอามาเป็นอารมณ์ เพราะไม่งั้นคุณจะอยู่ไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว

ขนาดคุณเห็นคนกำลังล้วงกระเป๋า ก็ห้ามโวยวายนะ...คนที่ตายไม่ใช่เค้า แต่เป็นคุณแน่นอน...
ที่ยุ่ยรี่ยังมีอาชีพหนึ่งที่ตำรวจปวดหัวมาก คือ พวกขโมยรถมอร์เตอร์ไซค์..ชั้นเคยเจอมากะตัวเองแล้ว เข้าใจเลย..ว่าทำไม...อาชีพนี้ถึงได้แพร่พันธุ์ไว้ยิ่งกว่าไวรัสเอดส์อีก
อ่านต่อพรุ่งนี้นะจ๊ะ
Lily

Facebook : เจ๊าะแจ๊ะจีน & รีวิว (เว่อร์) by เจ้ลีลี่
https://www.facebook.com/lilydiary/